Finance

บริษัทดังโกยหุ้นเพิ่มทุนพีพี

ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทขนาดกลาง และเล็ก ได้ระดมทุนโดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง (Private Placement: PP) อย่างคึกคัก

จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่ามีบริษัทจดทะเบียน 17 แห่ง ที่เพิ่มทุนโดยเสนอขายหุ้นแบบพีพี ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดกลางและเล็ก โดยกระจายอยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรม และบริการ

การจัดสรรเพิ่มทุนแบบพีพีให้บจ.ใหญ่ในรอบ 8

​จากข้อมูลพบว่า บริษัทจดทะเบียนที่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบพีพี มีการจัดสรรหุ้นให้กับ บริษัทขนาดใหญ่ชื่อดังหลายแห่ง และหากนำราคาหุ้นเพิ่มทุนมาเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน จะเห็นว่ามีทั้งราคาหุ้นสูงขึ้น และต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ได้รับจัดสรรมา ดังนั้นบริษัทที่ได้รับจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จะได้รับทั้งกำไร หรือ ขาดทุนจากการรับซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

​ สำหรับบริษัทที่มีการระดมทุนขายหุ้นแบบพีพี โดยจัดสรรให้กับบริษัทขนาดใหญ่ชื่อดัง ประกอบด้วย บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD ดำเนินธุรกิจ รับเหมาตกแต่งภายในอาคาร ประเภทคอนโดมิเนียม โรงแรม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และสถานที่ราชการรวมถึง ผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปตามคำสั่งซื้อลูกค้า โดยเป็นจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ

ในเดือนมิถุนายน 2561 ได้เพิ่มทุนเสนอขายหุ้นพีพี ให้กับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือBTS จำนวน 72 ล้านหุ้น และจัดสรรให้ สิวาชัย กลิ่นสุคนธ์ จำนวน 18 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.30 บาท หากนำมาเปรียบเทียบกับราคาหุ้นที่ซื้อขายเฉลี่ยในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม อยู่ที่ 3.27 บาทบาทต่อหุ้น ล่าสุดวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 3.18 บาทต่อหุ้น ดังนั้นแสดงว่า ราคาหุ้นในกระดานยังต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุน

บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE ดำเนินธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ และบันเทิง ได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 46.75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.85 บาท โดยเสนอขายหุ้นกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ขณะที่ราคาหุ้นในช่วงเดือนมีนาคม- เมษายน มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.19 บาทต่อหุ้น  ล่าสุดวันที่ 7 กันยายน อยู่ที่ 2.62 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำหากเทียบกับราคาเพิ่มทุนแบบพีพี

บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B  ดำเนินธุรกิจท่าเทียบเรือ มีลักษณะเป็นท่าเทียบเรือสินค้าบรรจุตู้ (Container Terminal) โดยให้บริการกับเจ้าของเรือ เจ้าของตู้สินค้า และผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้า โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 200 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.90 บาท ให้กับ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL ขณะที่ราคาเฉลี่ยในเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน อยู่ที่ 0.89 บาทต่อหุ้น แต่ล่าสุดวันที่ 7 กันยายน ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.60 บาท ดังนั้นจะเห็นว่า ราคาหุ้นในกระดานหลักยังต่ำกว่า ราคาเพิ่มทุน

การจัดสรรเพิ่มทุนแบบพีพีให้บจ.ใหญ่

บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 400 ล้าหุ้นในราคาหุ้นละ 0.51 บาท ให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB  ขณะที่ราคาหุ้นในช่วงเดือนมกราคม 2561 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.55 บาท หากเทียบกับราคาหุ้นเพิ่มทุนถือว่าสูงกว่า ดังนั้นถ้าผู้รับซื้อหุ้นเพิ่มทุนขายหุ้นก็น่าจะได้รับกำไรจากส่วนต่างในครั้งนี้ ล่าสุดราคาอยู่ที่ 0.64 บาทต่อหุ้น

บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านและธุรกิจบริการด้านดิจิทัลได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 121.66 ล้านหุ้น ให้กับ บริษัท เคแอลเอ็น โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด  จำนวน 112.66 ล้านหุ้น Gather Excellence Limited 100 หุ้น และ บริษัท สยาม เจ้าพระยา เอ็กซ์เพรส จำกัด 8.91 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 7.28 บาท ขณะที่ราคาเฉลี่ยของหุ้นในกระดานหลักเดือนก.ค.อยู่ที่ 7.32 บาท ล่าสุดอยู่ที่หุ้นละ 7.80 บาท

บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแบบครบวงจร โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 200 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.50 บาทให้กับ บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำนวน 100 ล้านหุ้น และเฉลิมชัย มหากิจศิริ 100 ล้านหุ้น สำหรับราคาเฉลี่ยในเดือนมีนาคม 2561อยู่ที่ 1.68 บาทต่อหุ้น และ ล่าสุดราคาหุ้นอยู่ที่ 1.62 บาทต่อหุ้น

​ส่วนบริษัทที่เหลือมีการจัดหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนรายบุคคล ประกอบด้วย บริษัทนวกิจประกันภัย จำกัด(มหาชน)NKI, บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) TSI ,บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO, บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) NEP, บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) SPCG

บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) TTCL , บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) EFORL บริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) NPPG , บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) META บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) BSM, บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) ECF

​นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้ความเห็นว่า การที่บริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและเล็กได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้บริษัทใหญ่เนื่องจากมีความต้องการพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งเพื่อสนับสนุนทางด้านการเงินเป็นปัจจัยหลัก ส่วนจะต่อยอดทางธุรกิจหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอนาคตของแต่ละบริษัทมีศักยภาพในการเชื่อมต่อธุรกิจกันได้มากน้อยแค่ไหน

“ส่วนใหญ่การขายหุ้นพีพีน่าจะมีวัตถุประสงค์ของการหาแหล่งเงินทุน เพราะเป็นวิธีที่สามารถระดมทุนได้เร็วต้นทุนต่ำ จึงเป็นการทำเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินมากกว่า ส่วนการเชื่อมโยงหรือต่อยอดธุรกิจต้องใช้เวลา จึงจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight