Lifestyle

หน.ช่างภาพทีวีช่องดังทนไม่ไหว! ขอโทษกับความเน่าเฟะกรณี ‘ลุงพล’

“หัวหน้าช่างภาพทีวีช่องดัง” ลาออก!! ระบายความในใจหลังต้องเสนอข่าว “ลุงพล” ต่อเนื่องนานหลายเดือน ลั่นขอโทษกับความเน่าเฟะกรณี ลุงพล ป้าแต๋น และบ้านกกกอก จากน้ำมือของ “สื่อ” ที่หยิบยื่นให้กับสังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์ข้อความของ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็น “หัวหน้าช่างภาพสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง” ได้โพสต์ข้อความระบายความในใจ เกี่ยวกับการทำข่าว “ลุงพล” ซึ่งกำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ในโลกโซเชียล โดยระบุว่า ขอโทษกับความเน่าเฟะกรณีลุงพล ป้าแต๋น และบ้านกกกอก จากน้ำมือของ “สื่อมวลชนอย่างพวกเรา” ที่หยิบยื่นให้กับสังคม ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา

ผมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าช่างภาพข่าวของหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ ที่นำเสนอข่าวนี้มาโดยตลอด ผมทำงานที่นี่มา 6 ปี ตั้งแต่วันแรกของการออกอากาศ จนวันนี้ ไม่สามารถอดทนกับเรื่องที่เกิดขึ้น และ ได้ตัดสินใจเดินออกมาแล้ว

ลุงพล

จากคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่ถูกนำเสนอ โดยสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่ง และ “ผมคือหนึ่งในนั้น” ที่มีส่วนทำให้คดีความ 1 คดี กลายเป็นเรียลลิตี้ ชีวิตของลุงพล – ป๋าแต๋น เรียลลิตี้ ความแตกแยกของครอบครัวๆ หนึ่ง ชีวิตคนในหมู่บ้านกกกอก เรื่องไสยศาสตร์ ความงมงาย และ การมอมเมา

“เราขายข่าวรายวัน” “เราหน้าไม่อาย” “เราไม่สนผิดถูก” “เราไร้จรรยาบรรณ” คือสิ่งที่สังคมตั้งคำถาม และมันถูกต้องทั้งหมด

เรานำเสนอเรื่องราวที่ห่างไกลจากสิ่งที่ควรจะเป็น จนกู่ไม่กลับ หาประโยชน์ และ ปล่อยให้กลุ่มคนที่ต้องการผลประโยชน์จากเรื่องนี้เข้ามารุมทึ้ง “เราอยากได้กระแส และต้องการเพียงแค่ยอดคนดู ยอดกดไลก์ ยอดแชร์”

บางคนแก้ต่างว่า สิ่งที่เกิดขึ้น สื่อฯอย่างพวกผม ทำไปเพื่อตอบสนองความกระหายใคร่รู้ของคนในสังคม หรือ ช่วยเหลือให้ชาวบ้าน 2 คนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

มันไม่ใช่แค่สิ่งนั้นแน่นอน มันคือ ผลประโยชน์ทั้งนั้น

ยอมรับกันสักทีเถอะว่า “เรา” คือตัวแปรสำคัญ
และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความบิดเบี้ยวทั้งหมดนี้
เพราะเราหิวกระหายเรตติ้งกันเหลือเกิน

“เรตติ้ง” คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง
“เรตติ้ง” คือ ปัจจัยที่จะบอกได้ว่าคุณอยู่หรือไป
และ “เรตติ้ง” ก็กลายเป็นข้ออ้าง ที่ทำให้คนบางกลุ่มยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้มา

ผมเป็นหนึ่งคนที่รับรู้เรื่องราว ที่ถูกสร้าง ปั้นแต่งและถูกนำเสนอผ่านหน้าจอมาโดยตลอด และตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า “พวกเราทำอะไรกันอยู่” “มันไม่ใช่ปรากฏการณ์ ไม่ใช่ความแปลกใหม่ ไม่ใช่ _่า อะไรทั้งสิ้น”

วันนี้ ผมซึ่งระลึกเสมอว่า ตัวเองเป็นหนึ่งในฟันเฟือง ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ และ พยายามจะแก้ไขอะไรบ้าง แต่สุดท้าย “ผมขอยอมแพ้กับความบิดเบี้ยว และ ยอมรับว่าตัวเองไม่สามารถท้วงติง หรือเปลี่ยนแปลงอะไรที่เกิดขึ้นจากต้นทางได้”

ทุกอย่างยังดำเนินต่อไป ด้วยเหตุผลที่สรรหากันมา

ผมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และ หวังว่าเมื่อเหตุการณ์จบลง ทั้งเราและคนดูบางกลุ่ม น่าจะได้บทเรียนจากเรื่องนี้บ้าง และ ขออย่าเหมารวมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือภาพทั้งหมดของ “สื่อมวลชน” ผมยืนยันว่า ในสภาวะที่มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องเผชิญ

วันนี้ยังคงมีเพื่อนสื่อมวลชน ที่พยายามทำหน้าที่ของตัวเอง ทำหน้าที่ของสื่ออย่างที่ควรจะเป็นให้ได้ดีที่สุด ผมขอบคุณและขอให้กำลังใจเพื่อนสื่อมวลชนที่ยังยืนหยัดทำหน้าที่อย่างถูกต้องต่อไป

ลุงพล

ทรงพล เรืองสมุทร
9 กันยายน 63
หลังการประชุมที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ท้ายโพสต์ของหัวหน้าช่างภาพรายนี้ ยังติดแฮชแท็ก #แบนระบบ ก่อน #แบนลุงพล เถอะ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พิธีกร และ ดีเจชื่อดังอย่าง ครูลูกกอล์ฟ – คณาธิป สุนทรรักษ์ ได้โพสต์โซเชียลทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์และอินสตาแกรมว่า “สื่อหลัก สื่อรอง สื่อใดๆ สำคัญมากจริงๆ ดูง่ายๆ พวกคุณสามารถเปลี่ยนเรื่องราวการเสียชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนึง ให้กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอคะ? ไม่มีใครในองค์กรเตือนกันบ้าง หรือเอะใจสักหน่อย? ส่วนพวกเราคงทำได้แค่ไม่ต้องไปแชร์ข่าวพวกนั้นต่อ”

พร้อมทั้งแท็กหาสองสื่อใหญ่ อย่างไทยรัฐและอมรินทร์ทีวีว่า “ฝากด้วยนะคะ @thairath @amarintvhd” ซึ่งหลังจากที่ครูลูกกอล์ฟได้โพสต์ข้อความดังกล่าวลงไป ก็มีเพื่อนๆ ในวงการและชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นด้วยเป็นจำนวนมาก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK