Technology

มาแล้ว!! ไอโฟนใหม่ 3 รุ่น ราคากระฉูดรุ่น XS Max

8f9d55472fa76ccfa2f267f05f8190316144b1f1
ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล (ภาพจากเอเอฟพี)

ไม่เซอร์ไพรส์ อีเวนท์ใหญ่ประจำปีของแอปเปิล ณ สตีฟ จ็อบส์ เธียเตอร์ เป็นไปตามสิ่งที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ล่วงหน้าอีกครั้ง เมื่อมีการเปิดตัวไอโฟนทั้งสิ้น 3 รุ่น โดยในสองรุ่นท็อปใช้ชื่อว่า iPhone XS ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ และ iPhone XS Max ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ ส่วนรุ่นราคาประหยัดซึ่งยังเป็นจอแอลซีดีใช้ชื่อว่า iPhone XR ราคาเริ่มต้น 749 ดอลลาร์

สำหรับความจุของไอโฟนใหม่ iPhone XS และ iPhone XS Max นั้นมีให้เลือก 3 แบบได้แก่ 64GB, 256GB และ 512GB ซึ่งเป็นความจุสูงสุดของปีนี้ ราคาเริ่มต้นของ iPhone XS คือ 999 ดอลลาร์ ส่วนราคาเริ่มต้นของ iPhone XS Max คือ 1,099 ดอลลาร์ ส่วนรุ่นที่ราคาสูงสุดอย่าง iPhone XS Max ก็คือรุ่น 512GB ราคา 1,499 ดอลลาร์

ส่วนถ้าเป็น iPhone XR จะมีความจุให้เลือกทั้งสิ้น 3 แบบ ได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB ราคาของแต่ละความจุได้แก่ 749 ดอลลาร์, 799 ดอลลาร์ และ 899 ดอลลาร์ ตามลำดับ

โดยชิปเซ็ตที่มาในปีนี้ก็คือ A12 Bionic ซึ่งถือเป็นชิปเซ็ตตัวแรกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร และมาพร้อมความสามารถ Neural Engine สำหรับประมวลผลแมชชีนเลิร์นนิ่ง ซึ่งจะเข้ามาช่วยในการประมวลผลต่าง ๆ เช่น การตรวจจับใบหน้าผ่าน Face ID ทำได้ดียิ่งขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น

57097a026a9f8528d666520ab72fec9b94e22314

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือระบบกล้องคู่ด้านหลังความละเอียด 12MP ที่ในงานนี้แอปเปิลบอกว่า สามารถถ่ายเอฟเฟ็กต์โบเก้ได้สวยยิ่งขึ้นและควบคุมระยะชัดลึกหลังจากถ่ายภาพแล้วได้เลย รวมถึงสามารถถ่ายวิดีโอ HD 1080p ด้วย

สีที่มีให้เลือกก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ เพราะแอปเปิลเลือกที่จะใส่สีสันสดใสอย่าง เหลือง ส้ม น้ำเงิน ลงมาให้เลือกใช้กันด้วยใน iPhone XR (เปิดตัวทั้งสิ้น 6 สี ได้แก่ Yellow, White, Black, Blue, Coral และ Product RED

ส่วนใน iPhone XS และ iPhone XS Max นั้นมีสามสีให้เลือกคือ ทอง, เงิน และเทา

ae9e79a16af3c54844308f8285d265d067fcc672
Apple Watch Series 4 (ภาพจากเอเอฟพี)

นอกจากเปิดตัวไอโฟนแล้ว อีกโปรดักซ์หนึ่งที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวก็คือแอปเปิลวอทช์ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดอีกเช่นกัน เมื่อมีการเปิดตัว Apple Watch Series สองรุ่นที่มีหน้าปัดใหญ่ขึ้นเป็น 40 มม. และ 44มม. โดยเน้นฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ และการตรวจจับต่าง ๆ ที่ละเอียดมากขึ้น เช่น ตรวจจับการหกล้มได้ ตรวจวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้าได้

บริษัทวิจัย CB Insights เผยว่า เห็นได้ชัดว่าแอปเปิลต้องการขยายการใช้งานไปสู่เทคโนโลยี Augmented Reality และอุปกรณ์ Wearables อย่างแอปเปิลวอทช์ และหูฟังไร้สาย “แอร์พ็อด” โดยมีไอโฟนเป็นตัวทำกำไรให้กับองค์กรต่อไป

อย่างไรก็ดี การเปิดตัวไอโฟนครั้งนี้ เป็นการเปิดตัวในยุคที่ตลาดสมาร์ทโฟนมีสัญญาณเข้าใกล้ภาวะอิ่มตัวสูงสุด โดยพบว่าข้อมูลจากไอดีซีชี้ว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกนั้นลดลง 0.7% ในปี 2018 เหลือ 1.455 พันล้านเครื่อง ซึ่งทางแอปเปิลเองก็ดูจะทราบดี และมีการปรับราคาไอโฟนรุ่นเก่าลงด้วยในรุ่น 7, 7 Plus, 8 และ 8 Plus ส่วนรุ่นที่ต่ำกว่านั้น ในตอนนี้พบว่าหากเข้าไปเสิร์ชใน Apple.com จะไม่ปรากฏแล้ว รวมถึงรุ่น iPhone X ด้วย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight