Business

แจกเงิน 3000 บาทผ่าน www.คนละครึ่ง.com กำลังเขียนละเอียด รอเข้า ครม.

การประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ แจกเงิน 3000 บาท ผ่าน www.คนละครึ่ง.com ของรัฐบาล ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะต้องยอมรับว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ กำลังเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถ้าหากได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ก็จะสามารถช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ ค่อยๆ ติดตามข่าวสาร เนื่องจากมาตรการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด เตรียมประกาศความชัดเจนต่อไป

อนุชา บูรพชัยศรี แจกเงิน 3000 คนละครึ่ง

แจกเงิน 3000 บาท ผ่าน www.คนละครึ่ง.com รอ ครม. เคาะ  

ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ย. 63) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายประชาชนที่มีสิทธิ์จำนวน 15 ล้านคน ในวงเงินคนละ 3000 บาทนั้น เป็นเพียงข้อเสนอในหลักการเบื้องต้น จากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.)

ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม และเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป

นายอนุชา กล่าวย้ำว่า รัฐบาลจะดำเนินการด้วยความรอบคอบ และให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเงินช่วยเหลือดังกล่าว ตั้งใจที่จะมอบให้ประชาชนนำไปใช้จ่ายได้ที่ร้านค้าทั่วไป เช่น ร้านหาบเร่แผงลอย ร้านโชห่วยต่าง ๆ และซื้อสินค้าในตลาดสดและตลาดนัด เพื่อให้ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า สามารถเข้าร่วมโครงการให้ได้มากที่สุด และเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

แจกเงิน 3000 บาท คนละครึ่ง

เปิด “ลงทะเบียน” กลางเดือนหน้า

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการบริโภค แจกเงิน 3000 บาท ให้กับประชาชนอายุ 18 ปี ขึ้นไป จำนวน 15 ล้านคน จะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิผ่าน www. คนละครึ่ง .com ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้

ชื่อเว็บไซต์ที่ใช้ลงทะเบียนนั้น ต้องการสื่อสารให้ชัดเจนว่า มาตรการนี้รัฐไม่ได้แจกเงินอย่างเดียว แต่ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ต้องร่วมจ่ายเงินในการซื้อสินค้าอุปโภคด้วยครึ่งหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ สศค. กำลังเร่งสรุปรายละเอียด ของโครงการทั้งหมด เพื่อเสนอให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะได้ดำเนินการเตรียมพร้อมระบบการลงทะเบียน เงินที่จะมาใช้ในโครงการให้ทันกลางเดือนตุลาคมนี้

นายลวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับเงื่อนไขของโครงการนั้น ประชาชนที่จะได้รับสิทธิ์ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่ผ่านเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อนี้สามารถลงทะเบียนได้หมด เพราะเป็นมาตรการต้องการกระตุ้น ให้เกิดการใช้จ่ายจริงๆ รวมถึงร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการขณะนี้ ก็นำร้านค้าจากโครงการชิมช้อปใช้ ประมาณ 5 – 6 หมื่นร้าน และจะมีการลงพื้นที่เพื่อให้ร้านค้าหายเร่แผงลอยเข้าโครงการให้มากที่สุด

ส่วนการเปิดให้ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ เช่น ร้านเซเว่น ห้างสรรพสินค้า เข้าร่วมโครงการด้วยนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งเป้าหมาย คือ ต้องการให้เกิดการใช่จ่ายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้มากที่สุด

“โครงการนี้กำหนดไว้ 15 ล้านคน ซึ่งเป็นการร่วมจ่ายการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ระหว่างผู้ได้สิทธิกับรัฐบาล คนละครึ่ง จึงอยากให้ผู้ได้สิทธิมีกำลังและต้องการซื้อจริงๆ หากมีคนลงทะเบียนเกินจำนวนมาก ก็สามารถเสนอให้รัฐบาลขยายได้ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” นายลวรณ กล่าว

สำหรับโครงการดังกล่าว คาดว่า จะใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท จำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท หากมีคนมาใช้สิทธิเต็มจำนวน 15 ล้านคน และใช้เงินหมด 3,000 บาท จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 9 หมื่นล้านบาท

fig 24 03 2020 03 35 09

ด้าน ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รายงานว่า ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ผ่านการ แจกเงิน 3000 บาท ให้กับคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 15 ล้านคน ภายใต้ชื่อโครงการ “คนละครึ่ง” หรือ ชิมช้อปใช้ เฟสใหม่ โดยจะดำเนินการผ่านเว็บไซต์ www. คนละครึ่ง .com ซึ่งในขณะนี้ กระทรวงการคลังกำลังจัดทำรายละเอียดเสนอการประชุม ศบศ. ครั้งหน้า เพื่อให้เริ่มโครงการได้ภายในเดือนตุลาคม 2563

ใครมีโอกาสเข้าร่วมโครงการ?

  • คนที่มีสัญชาติไทย
  • อายุ 18 ปีขึ้นไป 

ลงทะเบียนอย่างไร?

  • ผ่านทาง www. คนละครึ่ง .com โดยการลงทะเบียนมีลักษณะคล้ายชิมช้อปใช้คือ คนที่ลงทะเบียนก่อนจะมีสิทธิ์ได้ก่อน

ใช้งานอย่างไร?

  • ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง คาดว่า จะมีการเติมเงินเข้าให้ที่แอปพลิเคชันนี้ เมื่อจับจ่ายซื้อของ ต้องจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน โดยทางรัฐจะออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งผู้ใช้ออกเอง

จำกัดวงเงินการใช้จ่ายหรือเปล่า?

  • คาดว่าไม่เกินวันละ 100-250 บาท

ใช้ได้ที่ไหนบ้าง?

  • ร้านค้าทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการ และเซเว่น ร้านสะดวกซื้ออื่น ๆ และ สินค้าที่ซื้อ จะครอบคลุมแค่อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอื่น ๆ ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่

เริ่มได้เมื่อไร?

  • ประมาณตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปสิ้นสุดที่เดือนธันวาคม 2563

โครงการนี้จะช่วยประเทศไทยได้จริงหรอ?

  • เงินจะลงสู่ระบบเศรษฐกิจ 9 หมื่นล้านบาท กระตุ้นจีดีพีได้ 0.25%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo