Economics

ราคาทองคำเดือน ก.ย. เสี่ยงปรับฐาน ชี้ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น

ราคาทองคำเดือน ก.ย. มีโอกาสปรับฐาน “YLG” มองแนวรับที่ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,800 บาท แนะจับตาผลประชุมเฟด ชี้ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น

วายแอลจี เผย ราคาทองคำเดือน ก.ย. ยังปรับฐานต่อ แต่ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น ช่วงนี้ หากราคาปรับลง ถือเป็นจังหวะเข้าซื้อ ระยะสั้นมองแนวรับ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,800 บาท ระยะกลาง 1,919 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,350 บาท แนะจับตาผลประชุมเฟดช่วงกลางเดือน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทอง

ส่วนในประเทศไทย ล่าสุด พบนักลงทุนตบเท้าลงทุนในทองคำมากขึ้น ชี้ยิ่งราคาผันผวน ยิ่งเพิ่มโอกาสทำกำไรหลายรอบ ล่าสุด ออกโปรโมชั่น ลดเงินหลักประกันสำหรับเทรดทองคำแท่งเหลือ 70,000 บาท จากเดิม 100,000 บาท เพิ่มโอกาสให้นักลงทุนมากขึ้น

ราคาทองคำเดือน ก.ย.

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเดือนกันยายน 2563 ประเมินว่ามีทิศทางปรับฐานสะสมกำลังต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคม เพื่อขึ้นต่อในช่วงที่เหลือของปี

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม้ว่าทองคำจะอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่จะเห็นว่า ราคาทองคำ ยังสามารถยืนเหนือแนวรับที่ 1,909 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน แต่โดยรวม หากราคายังไม่สามารถทะลุผ่าน แนวต้าน 1,979 – 1,976 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ยังคงต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคา

แต่หากปรับลดลงมา ก็เป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อ เพราะยังมีโอกาสแตะ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยระยะสั้น ให้แนวรับแรกอยู่ที่ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 28,800 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,934 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 28,550 บาทต่อบาททองคำ

ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ที่รับความเสี่ยงได้น้อย แนะนำรอซื้อที่ 1,919 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 28,350 บาทต่อบาททองคำ และตั้งจุดตัดขาดทุนหากหลุด 1,916 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งแนวรับนี้ ถือเป็นกรอบล่างของเทรนด์ขาขึ้น หากหลุดจากแนวรับนี้ จะสามารถปรับลดลงไปได้ถึง 1,902 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 28,100 บาทต่อบาททองคำ (ราคาทองคำในประเทศคำนวณจากค่าเงินบาทที่ระดับ 31.20 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้)

อย่างไรก็ดี การที่จะปรับลดลงไปได้ถึงจุดนั้น ต้องมีข่าวที่ส่งผลกระทบมากพอสมควร

นางพวรรณ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ต้องจับตาการประชุมของเฟด ช่วงกลางเดือนซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 15 – 16 กันยายน โดยเฉพาะถ้อยแถลง ของประธานเฟดสาขาต่างๆ ที่ทยอยออกมาแสดงทรรศนะที่สำคัญว่า แต่ละท่านมีมุมมองต่อเป้าหมายเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไร

รวมถึงในสัปดาห์นี้ ก็มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ที่ต้องจับตา ทั้งตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนสิงหาคม ที่ประกาศในวันพุธ และจะมีการเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงาน ทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงาน ที่จะประกาศในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ คาดกระทบทิศทางดอลลาร์และราคาทองคำได้ค่อนข้างมาก

ราคาทองคำเดือน ก.ย.

บทวิเคราะห์ของ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด  (YLG Bullion and Futures Co., Ltd.)  ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 26.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงดันจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ (1) การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ ISM เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ออกมาดีเกินคาดในวันอังคาร แม้ในระหว่างวัน ดอลลาร์จะลดช่วงบวกลงบ้างหลังจากการเปิดเผยการจ้างงานของภาคเอกชนจาก ADP ที่เพิ่มขึ้นเพียง 428,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค. “ต่ำกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกิน 1 ล้านตำแหน่ง

แต่การดีดตัวกลับของราคาทองคำเป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อพร้อมๆ กับที่ราคาทองคำกลับมาร่วงลงอีกครั้ง หลังจากการเปิดเผยคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 6.4% ในเดือน ก.ค. “สูงกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 6.0%

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจาก (2) การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง 454.84 จุด ส่วน S&P500 และ Nasdaq เดินหน้าทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ จากแรงซื้อหุ้นกลุ่ม defensive stocks เช่น หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค

รวมไปถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดแรงขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม จนทำให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,932.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาปิดตลาดบริเวณ 1,943.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -0.59 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนี PMI ภาคการบริการจากมาร์กิตและ ISM ของสหรัฐ

คำแนะนำ ลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อเมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับ 1,939-1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะหากราคาไม่หลุดแนวรับ ราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวในช่วงสั้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK