Politics

ศาลปล่อยตัว! ‘อั๋ว จุฑาทิพย์’ ราดสีขาวใส่ตัว ลั่นชุมนุมต่อ 19 ก.ย.

“อั๋ว จุฑาทิพย์” ประธาน สนท.เทสีราดตัวประท้วงแบบสันติวิธี หลังได้ประกันตัว ประกาศเดินหน้าร่วมกิจกรรมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 19 กันยายนนี้

วันนี้ (1 ก.ย.)  ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังจากที่ พนักงานสอบสวน สน. สำราญราษฎร์ นำตัว น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว อายุ 22 ปี ประธานสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 – 12 กันยายน เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 2 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือ และผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา

Eg0tP6AVgAIpVzt
ภาพ : ทวิตเตอร์@opol999

ศาลได้พิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหา ซึ่งคัดค้านการฝากขัง และได้ไต่สวนคำร้องคัดค้านแล้วฟังไม่ขึ้น จึงอนุญาตให้ฝากขังได้  จากนั้น ญาติ และทนายของผู้ต้องหา ได้ยื่นเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ 100,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหากระทำพฤติการณ์ใดๆ เหมือนตามข้อกล่าวหาในคดีนี้อีก

หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว น.ส.จุฑาทิพย์ ได้เดินออกมาให้สัมภาษณ์ที่ทางเท้า หน้าบริเวณศาลอาญา โดยยืนยันว่า การแสดงออกของตัวเอง เป็นการแสดงออกภายใต้รัฐธรรมนูญ

“วันนี้นั่งแกร็บมาเรียน ใช้แบบตัดบัตร เงินก็โดนตัดไปเลย ยังไม่ถึงมหาวิทยาลัย ตอนที่เขาจะจับหนู เขาขับมอเตอร์ไซค์มาประกบ แล้วเคาะกระจก หนูก็ตกใจนึกว่าเป็นโจร ที่ไหนได้ แสดงบัตร แล้วบอกยศ แนะนำตัวว่าเป็นตำรวจ เราก็ไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีอยู่แล้ว เราทราบว่ามีหมายจับ เราก็เฝ้ารอการจับกุมมานานมากก็ไม่มีการจับกุมสักที จนวันนี้เราโดนจับกุม แต่ละครั้งที่โดนจับกุมก็จะมีวาทกรรมใส่ร้ายฝ่ายเราว่าการประท้วงแบบนี้ไม่ใช่สันตินะ”

“ความจริงแล้วควรมีหมายเรียกมาก่อนด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือตำรวจเอาหมายจับมาจับเราเลย มันไม่แฟร์มากๆ กับนักศึกษาคนหนึ่ง เขาตามจากสัญญาณโทรศัพท์ ตามจากที่พัก ขู่บ้าน ขู่ครอบครัว เอาหมายไปที่บ้าน ตอนนี้เราก็เลยต้องประท้วงอย่างเข้มข้นขึ้น ทุกสิ่งรัฐธรรมนูญรับรองเรา เราเสียภาษี เราต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ ไม่ใช่การคุกคามจากรัฐ วันนี้ก็เลยต้องมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าเราสามารถทำได้ เราต้องยืนยันในสิทธิเสรีภาพของเรา การสาดสีก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้”

Eg1Mza1U0AArFip
ภาพ : ทวิตเตอร์@NattDK

จากนั้น น.ส.จุฑาทิพย์ ได้นำสีขาวมาราดตัวเอง โดยบอกว่า ต้องการแสดงออกว่านี่คือเสรีภาพ นี่คือการแสดงออกที่สามารถทำได้ การไปบริจาคเงินให้ตำรวจก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ ตำรวจอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจปฏิบัติผิด ตำรวจคุกคามประชาชน แล้วทำไมต้องชดเชยให้ตำรวจ ในเมื่อเผด็จการสั่งตำรวจมาคุกคามพวกเรา

“และตอนนี้ถึงแม้จะเป็นการสาดสีให้ตัวเอง แต่ก็เป็นการแสดงออกว่าพวกเราสามารถสาดสีได้ ไม่ว่าตอนไหนก็ตาม เราสามารถสาดสีใส่ผู้มีอำนาจได้ เพราะผู้มีอำนาจสาดคดีให้เรา สาดกระสุนให้เราไม่เคยเว้น”

ส่วนการที่เลือกใช้สีขาวนั้น น.ส. จุฑาทิพย์ ระบุว่า เพราะสีขาวคือสีแห่งความบริสุทธิ์  ต้องการทวงคืนความยุติธรรม สามารถเรียกร้องความยุติธรรมได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการอุ้มหาย เรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิ รวมถึงกระบวนการยุติธรรมตอนนี้

ข้อหาจับ อั๋ว จุฑาทิพย์

ทั้งนี้  ในคำร้องขอฝากขังนั้น เจ้าพนักงานสอบสวน ระบุ พฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 เวลาประมาณ 16.00 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน กับพวกได้จัดกิจกรรม “ใครไม่ทนให้ไปกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”  โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยรวมตัวกันบนทางเท้า หน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ในระหว่างชุมนุม ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ได้เข้าไปชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่กลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมไม่ปฏิบัติตามโดย น.ส.จุฑาทิพย์ ผู้ต้องหา ได้ขึ้นเวทีปราศรัยจำนวน 3 ครั้ง

ทั้งก่อนเกิดเหตุได้โพสต์เชิญประชาชนเข้าร่วมชุมนุม และปราศรัยว่า“ รัฐบาลยัดคดีให้พวกเรา” และพูดชักชวนผู้ชุมนุมให้ทำกิจกรรมโดยอยู่ค้างคืนว่า “ม็อบยาว ๆ โอไม่โอ” และเป็นผู้สั่งให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายเวที ด้วยข้อความว่า “เราจะเคลื่อนเวทีค่ะ ดันพื้นที่ค่ะ ไปค่ะ”

พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญา อนุมัติหมายจับ น.ส.จุฑาทิพย์ ผู้ต้องหานี้ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1173/2563 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2563

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สามารถจับกุม น.ส. จุฑาทิพย์ ผู้ต้องหานี้ ได้ตามหมายจับบริเวณ ปากซอยราชปรารภ 14 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยแสดงหมายจับ และผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิด แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

Eg0PrHNUcAETLYF
ภาพ : ทวิตเตอร์ @iLawFX

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา

  • ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ

หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่อง ในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้ นในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

  • ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญ

ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้น ในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ ในการกระทำความผิด

  • ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ในลักษณะมั่วสุมกัน

หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าว อันเป็นการยุยง ให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค

กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะ ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือโรคแพร่ระบาดออกไปฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

Eg0LtQFUMAEKkfC
ภาพ : ทวิตเตอร์@opol999
  • ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ

จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัย หรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด

  • ร่วมกันวางตั้งยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร
  • ร่วมกันตั้งวางหรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน
  • ร่วมกันโฆษณา โดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

ทั้งหมดนี้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2)(3),215 วรรคสาม, 385,83, ตามพ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 3548 มาตรา 9 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก. ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 1)

ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามชุมนุมการทำกิจกรรมการมั่วสุม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34 (6), 51, พ. ร. บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 114, 148, พ. ร. บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบของบ้านเมือง พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงพ.ศ.2493

ชั้นสอบสวนผู้ต้องหา ไม่ประสงค์ให้การใด ๆ ต่อพนักงานสอบสวน โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกัน จากนั้นศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาซึ่งคัดค้านการฝากขัง และได้ไต่สวนคำร้องคัดค้านแล้วฟังไม่ขึ้น จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo