Startup

GetLinks สตาร์ทอัพไทยที่จะไปให้เหนือกว่า LinkedIn

พลภัทร ทรงธัมจิตติ CMO และ Co-founder ของ GetLinks
พลภัทร ทรงธัมจิตติ CMO และ Co-founder ของ GetLinks

หากนับย้อนหลังไปเมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ GetLinks สตาร์ทอัพด้านการจัดหางานเริ่มก่อตั้งขึ้น มาถึงวันนี้ GetLinks กลายเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่มีฐานข้อมูลของคนดิจิทัลมากกว่า 500,000 รายชื่อ และยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นในยุคที่ธุรกิจขนาดใหญ่จำนวนมากต้องการ Transformation องค์กร และต้องการคนดิจิทัลเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการพัฒนา

ทีมงาน The BangkokInsight มีโอกาสพูดคุยกับ พลภัทร หวังธัมจิตติ ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CMO ของ GetLinks ที่บอกเล่าให้ฟังว่า ณ วันนี้ สิ่งที่เห็นคือความเปลี่ยนแปลงขององค์กรขนาดใหญ่จำนวนมากทั้งในและต่างประเทศที่มองหาคนดิจิทัลเข้ามาช่วยเสริมทัพรับยุค Disruption ซึ่งหนึ่งในมุมมองที่องค์กรขนาดใหญ่มีต่อตัวเองนั้นอาจมองว่าตัวเขาช้า แต่ในความเป็นจริง ภายในองค์กรมีทรัพยากรอยู่อีกเยอะมาก และทรัพยากรเหล่านี้จะมีประโยชน์มากในแง่ของการปรับตัวรับยุคดิจิทัล

จากความร่วมมือกับองค์กรขนาดใหญ่หลายราย ยังนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงของ GetLinks ที่พลภัทรบอกว่าจะไม่จำกัดตัวเองอยู่เฉพาะในสาย HR Technology อย่างเดียว แต่จะก้าวไปสู่การเป็น “Adaptive Talent Platform”

“เรามองว่า ในอนาคต บุคลากรสาย Developer, Digital Marketer จะขาดตอน มันทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่สามารถเป็นแค่ตัวกลางที่คอยหางานอย่างเดียวได้อีกต่อไป แต่เราต้องสร้างคนขึ้นมา และคนเหล่านั้นต้องเป็นคนที่สามารถปรับตัวได้”

สำหรับแผนการสร้าง Adaptive Talent ของ GetLinks นั้นมีหลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศ โดยพลภัทรเผยว่ามีการจับมือกับค่ายต่าง ๆ เช่น การจับมือกับสื่อยักษ์ใหญ่ในสิงคโปร์ที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ หรือในไทยก็มีการจับมือกับ SCG และ SkillLane แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือทัศนคติที่ไม่มองว่าใครเป็นคู่แข่ง แต่ทุกคนสามารถจับมือกันได้ เป็นพาร์ทเนอร์กันได้ทั้งหมด

หนึ่งในที่มาของทัศนคตินี้ อาจมาจากการที่ GetLinks มีพนักงาน 100 คน แต่เป็น 100 คนที่มาจาก 17 สัญชาติ ซึ่งการบริหารจัดการนั้น พลภัทรระบุว่า ให้แต่ละคนใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองเป็นหลัก เช่น ทีมจากเวียดนามอาจจะถนัดเขียนโค้ด ส่วนทีมจากสิงคโปร์อาจจะถนัดเรื่อง Management

พลภัทรยังได้กล่าวถึงสิ่งที่หลายองค์กรหวั่นเกรงเกี่ยวกับการถูก Disrupt ด้วยว่า “ผมมองว่า Disrupt มันเป็นคำที่ดี แต่มองว่ามันเป็นเฟสแรกของการสร้าง Awareness เพื่อให้คนตระหนัก ว่าเราจะโดน Disrupt แล้วนะ แต่เฟสสองคือการปรับตัวว่าถ้ามีเทคโนโลยีเข้ามา เราจะปรับตัวอย่างไร เราจะทำงานร่วมกันอย่างไรให้ซิงโครไนส์กันได้ทั้งหมด ผมเลยมองว่า หน้าที่ของเราคือทำอย่างไรให้ตรงนี้เป็นคอมมูนิตี้ของการปรับตัว”

“ถ้าในอนาคตมีแพลตฟอร์มหนึ่งที่นอกจากจะฝากโปรไฟล์ไว้ได้แล้วยังสามารถแนะนำได้ด้วยว่า เจ้าของโปรไฟล์นั้น ๆ ควรศึกษาเพิ่มเติมในแง่ใดจึงจะช่วยต่อยอด หรือ ควรเดินทางไปประเทศใดเพื่อ Up Skill หรือควรไปร่วมงานสัมมนาเรื่องใด GetLinks กำลังจะก้าวไปสู่จุดนั้น” พลภัทรกล่าวทิ้งท้าย

Avatar photo