เป็นประเด็นดราม่าวงการประกวดนางงามที่สื่อสังคมโซเชียลพูดถึงตลอดทั้งวัน สำหรับดราม่าการประกวดนางสาวสมิหลา 2020 รอบตัดสินเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยเพจเฟซบุ๊ก ชีวิตติดนางงาม ได้โพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ตำนานบทใหม่ เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เวทีนางสาวสมิลา หลังคัด 10 คนเหลือ 5 คน นางงามที่เข้ารอบคนที่ 3 กำลังฟังคำถามกรรมการอยู่ ก็เกิดเหตุการณ์นางงามที่ตกรอบทั้ง 5 คนที่เหลือ เดินเข้ามายืนโพสต์เรียงหน้าโต๊ะกรรมการด้านล่างเวที หลังจากนั้นก็มีเสียงกองเชียร์โห่ร้องกัน นางงามทั้ง 5 ยังยืนอยู่ไม่ไปไหน จนบนเวทีไม่สามารถดำเนินรายการต่อไปได้
พิธีกรจึงเชิญกรรมการให้ขึ้นไปอ่านคำถามบนเวที แต่ไวกว่ากรรมการคือนางงามตกรอบคนหนึ่งเดินขึ้นไปบนเวที แล้วหยิบไมค์มาพูดประมาณว่า “หนูผ่านเวทีประกวดมาเยอะ ถ้าจะตกรอบอย่างสมศักดิ์ศรี หนูยอมรับได้ เวทีนี้ไม่ยุติธรรม…” แล้วไมค์ก็โดนตัดไป
ล่าสุดตอนนี้ การประกวดไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ นางงามและแฟนนางงามไปรวมกันหลังเวที พร้อมตำรวจหลายนาย
Update: สุดท้ายจบลงด้วยดี ไม่มีผู้ชนะในปีนี้ เงินรางวัลหารแบ่งให้นางงามทั้ง 10 คน ”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (1 ก.ย.) บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี พิธีกร-นักแสดง และนางสาวไทยประจำปี 2543 ได้ไลฟ์เฟซบุ๊กพูดคุยกับแฟนคลับ พร้อมพูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า จริงๆ งานนี้ได้ติดต่อเธอมา แต่ด้วยเพราะอาจจะสู้ราคาไม่ไหว หรือยังไงไม่รู้ เลยไม่เลือกเธอ ซึ่งหลังจากเห็นคลิปแล้ว รู้สึกว่ามันร้อนแรง มีน้องๆพิธีกรหลายๆ คนมาถามเธอ ถ้าเจอแบบนี้จะทำยังไง ในฐานะที่เป็นพิธีกรมืออาชีพที่ทำงานประกวดมาทั่วประเทศไทย ถามว่าเคยเจอปัญหาแบบนี้ไหม เคยเจอ แถมหนักกว่านี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้ถ่ายทอดสดออกช่อง 11 ด้วย
ตอนนั้นเป็นการประกวดนางงามจังหวัดหนึ่ง ขณะที่เธอทำพิธีกรคู่กับพี่ผู้ชายอีกคนหนึ่ง มีผู้เข้าประกวดที่ตกรอบ 20 คนสุดท้ายคนหนึ่ง เดินขึ้นมายกมือไหว้ แล้วมาคว้าไมค์จากมือเธอไป เธอก็ดึงกลับ โดยนางงามคนนั้นบอกว่า “มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ” ถึงแม้ว่าสาวบุ๋มบอกว่าแจ้งดิฉันก็ได้ ซึ่งในขณะนั้นที่มีการแย่งไมค์กันไปมา เธอคิดว่า หากนางงามคนนั้นแย่งไปอีกที เธอต่อยร่วงแน่
แต่ทันใดนั้น พิธีกรชายข้างๆ ก็ดึงสายไมค์ออก เธอจึงต้องคว้าไมค์พิธีกรชายมาขอบคุณสปอนเซอร์ต่อทันที ในขณะที่พิธีกรชายและทีมงานต้องพานางงามคนนั้นลงเวทีไป ซึ่งนางงามที่ตกรอบ ลงไปท้าวเอวโวยวายว่า ..เบอร์นั้นฉีดมาทั้งหน้าทำไมได้เข้ารอบ งานวันนั้นวุ่นวายมาก พอมาเห็นเหตุการณ์เวทีสมิหลา ก็รู้สึกว่าภาพวันนั้นมันย้อนกลับมา
การประกวดนางงามต่างจังหวัด บางทีไม่ต้องดูหน้านางงาม พี่เลี้ยงแต่งเก่ง ยังไงก็สวย พูดตามตรง ดูสายสะพายก็พอ บางทีดูแค่สายสะพายก็รู้ว่ามีคนไหนจะได้เข้ารอบบ้าง ดังนั้นทำใจทุกเวทีมีแน่นอน เป็นเรื่องปกติ สิทธิ์ขอเจ้าของงาน และนี่ไม่ใช่งานแรก
ต้องขอชมพิธีกรที่มีสติดีมาก และนิ่งมาก ในความเป็นจริงพิธีกรไม่ได้แค่ต้องพูดอย่างเดียว ต้องดูหลายอย่าง เมื่อเห็นความวุ่นวายต้องดูว่าควบคุมได้หรือไม่ แนะว่าถ้าควบคุมได้ต้องเชิญน้องๆไปคุยกันข้างล่าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โกงหรือไม่โกง เป็นเรื่องของคนจัดงาน คนดูจะมองออกว่าโกงหรือไม่โกง ทั้งนี้ ก็เห็นใจทุกฝ่าย ยังไงก็เป็นบทเรียนของเวทีการประกวดอีกหนึ่งบทเรียนที่เกิดขึ้น
หากถามว่าถ้าบุ๋มเป็นพิธีกรงานนี้จะทำอย่างไร ก็ต้องบอกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทำทุกอย่างให้งานมันเดินหน้าต่อไปจนถึงกล่าวคำว่าขอบคุณและสวัสดีค่ะ เพราะเรื่องโกงไม่โกง ไม่เกี่ยวกับพิธีกร
ที่มา ชีวิตติดนางงาม
YOU MAY ALSO LIKE
- ชาวเน็ตเป็นห่วง คอมเมนต์ติงเบาๆ หลังเห็น น้องเดมี่ คลานท่าก้นโด่ง
- คลิปนี้โดนถล่มหนัก! อิงอิง อิงณภัสร์ สาวคู่กรณี ธัญญ่า คัฟเวอร์เป็น ปารีณา บอกชอบคนแก่
- ดีเจเผือก แฉแชทสาวปริศนา บังคับไปบอกรัก นาย ณภัทร เบลอหน้าแล้ว แต่ยังเดาออกว่าเป็นใคร!?