Politics

‘บิ๊กตู่’ ยังกลัว! รับห่วง ‘โควิด’ ระบาดระลอก 2 สั่งเข้มงวดแนวชายแดน

โควิดระบาดรอบ 2 “นายกรัฐมนตรี” รับห่วง สั่งเพิ่มความเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย มั่นใจสาธารณสุขไทยสามารถรองรับได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศที่ชายแดนติดกับประเทศไทย ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายโรงเรียน ในจังหวัดที่มีพื้นที่ตามแนวชายแดน ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเข้าสู่นักเรียน อาทิ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรณีพบชาวบ้านที่มีอาการไข้สูง 2 ราย ขณะนี้อยู่ภายใต้ความดูแลของโรงพยาบาลแล้ว

โควิดระบาดรอบ 2

ทั้งนี้ ได้มีการเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดในพื้นที่ตามแนวชายแดน ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงกำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังกรณีกระบวนการลักลอบพาชาวต่างด้าวเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ตามช่องทางธรรมชาติ เช่น ผู้ที่ว่ายน้ำลักลอบเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งต้องถูกนำเข้าสู่การตรวจคัดกรองโรค พร้อมสั่งการให้ติดตามผู้ที่กระทำผิดเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

“ขอให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยการทำงานของเจ้าหน้าที่ ประชาชนต้องไม่ประมาท แม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศมาเป็นเวลาหลายเดือน แต่หากเกิดการแพร่ระบาดของ โควิดระบาดรอบ 2 ไทยมีความพร้อมทั้งด้านงบประมาณ อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการพัฒนาวิจัยวัคซีนที่ได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า มุ่งเน้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งเสริมให้มีการเดินทางมากขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของธุรกิจสายการบินไม่ให้มีการลดลูกจ้างพนักงาน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจัดหางบประมาณเพื่อนำมาผลักดันการจ้างงานเพิ่มขึ้น และส่งเสริมสภาพคล่องของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่มีการใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรในการผลิตยาเสพติด ทำให้มีจำนวนยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น ก็ได้จับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการใช้จ่ายงบประมาณ ตามพระราชบัญญัติการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2564 ในการพิจารณาโครงการต่าง ๆ ว่าจะนำงบประมาณไปใช้ในส่วนใดบ้าง ตามความเหมาะสมและความจำเป็น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยืนยันว่าการใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพเรือนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของประเทศไทยในสถานการณ์ระหว่างประเทศและในภูมิภาคขณะนี้ รวมทั้งยังเป็นการดูแลและปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศด้วย

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากประเทศเมียนมา เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโครานา 2019 หรือ โควิด-19 รอบที่ 2 จนต้อง ปิด 3 โรงเรียน ที่มีความเสี่ยงแล้ว

ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กำชับโรงเรียนที่อยู่บริเวณพื้นที่ชายแดน ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากเป็นพื้นที่มีความเสี่ยงสูง

ด้านนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนในพื้นที่ชายแดนที่ติดประเทศเมียนมา จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนในจังหวัดกาญจนบุรี 1 แห่ง และโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2 แห่ง

สำหรับโรงเรียนทั้งสามแห่งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ประสานเจ้าหน้าสาธารณสุขในพื้นที่ มาประเมินอีกครั้ง ว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปิดเรียนจำนวนกี่วัน

ส่วนโรงเรียนอื่น ๆ ในเขตพื้นที่ชายแดนนั้น ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประสานกับศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโนโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระดับจังหวัดว่าจะมีวิธีการดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และต้องพิจารณาอย่างระมัดระวังรอบคอบ

ทั้งนี้ โรงเรียนที่ประกาศปิดแล้ว 3 แห่งได้แก่ โรงเรียนบ้านกุยแหย่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ประกาศปิดการเรียนการสอน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 – 3 กันยายน 2563 เพื่อป้องกันความเสี่ยง จากเชื้อไวรัสโควิด-19

การปิดโรงเรียนบ้านกุยแหย่ เนื่องจากมีผู้หลบหนีเข้าเมืองมาประเทศไทย ผ่านช่องทางตามธรรมชาติ และฝ่ายปกครองของชุมชน ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ได้ควบคุมตัว ทำการตรวจวัดไข้ปรากฎว่ามีไข้สูง จึงได้ส่งไปควบคุมโรค โรงพยาบาลทองผาภูมิ และพบว่าผู้ป่วยดังกล่าว ใกล้ชิดกับ นักเรียนจำนวน 3 คน

ดังนั้น ทางโรงเรียนบ้านกุยแหย่ จึงได้แจ้งให้เด็กนักเรียนทั้ง 3 คน หยุดเรียน และกักตัวอยู่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน ทำการตรวจวัดไข้ทุกวัน และสังเกตอาการผิดปกติอย่างต่อเนื่อง รวมถึง หยุดการเรียนการสอนของโรงเรียน โดยจะทำ Big Cleanning Day ต่อไป

หากผลตรวจเชื้อของชายชาวเมียนมา ทั้ง 2 คน ออกมาเป็นลบ ทางโรงเรียน จะกลับมาเปิดการเรียน การสอน ตามปกติได้ต่อไป

ขณะที่อีก 2 โรงเรียนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ โรงเรียนอานนท์ หมู่ 2 ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ และ โรงเรียนบ้านห้วยไคร้ หมู่3 ตำบลบึงนคร โดยประกาศปิดเรียนด้วยเหตุจำเป็นพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1-7 กันยายน 2563 เนื่องจากมีผู้ปกครองกว่า 10 คน เดินทางเข้าออก ตามเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้ที่ประเทศเมียนมาพบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอก 2 ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563

นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน กรณีโรงเรียนอานันท์ หมู่ 2 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ โรงเรียนบ้านห้วยไคร้ หมู่ 3 ต.บึงนคร แจ้งหยุดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 1 – 7 กันยายน 2563 เนื่องจากนักเรียนทั้ง 2 โรงเรียน มีทั้งชาวไทยและชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และเมียนมา มีผู้เกี่ยวข้องเดินทางข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ จึงปิดเพื่อความปลอดภัย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo