Economics

‘ขสมก.’ เขย่าโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เตรียมเสนอบอร์ด 19 ก.ย. นี้

“ขสมก.” เขย่าโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่  19 ก.ย. นี้ เสนอบอร์ดพิจารณาปรับโครงสร้างและแก้ไขมติ ครม. เพื่อรับพนักงานเพิ่ม ส่วนเดือนหน้าจะเสนอแพจเกจเออรี่รีไทร์ เชื่อจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในปีหน้า

kkkk

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บอร์ด ขสมก.) เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ขสมก. จะดำเนินการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อให้องค์กรมีขนาดเล็กลง มีความคล่องตัวมากขึ้น สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของระบบขนส่งภายในกรุงเทพฯ

วันที่ 19 กันยายนนี้ บอร์ด ขสมก. จะพิจารณาเรื่องการปรับโครงสร้างองค์กรทั้งระบบ เพื่อจัดสรรแผนก ตำแหน่ง และจำนวนพนักงาน ให้เหมาะสมกับความต้องการในปัจจุบัน โดยการปรับโครงสร้างจะคำนึงถึงปัจจัยทั้งหมดที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร เช่น การนำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) มาใช้ หรือการย้ายรถร่วมบริการ ขสมก. (รถร่วมฯ ขสมก.) ไปอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดจะพิจารณาเรื่อง การขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2538 ซึ่งกำหนดให้ ขสมก. ไม่สามารถรับสมัครบุคลากรใหม่ในตำแหน่งอื่น นอกเหนือจากพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร

สาเหตุที่ ขสมก. ต้องขอแก้ไขมติ ครม. ดังกล่าว เพราะพนักงานหลายตำแหน่งมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการ และบางตำแหน่งก็ต้องการพนักงานใหม่เพิ่มเติม เช่น ฝ่ายไอที ซึ่งต้องเข้ามาดูแลระบบเดินรถและอี-ทิคเก็ตในอนาคต

ขณะเดียวกัน ขสมก. ก็ตั้งเป้าจะเสนอโครงการสมัครใจจาก (Early retire) ให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อทยอยปรับลดพนักงานเก็บค่าโดยสารให้สอดคล้องกับการนำเทคโนโลยีอี-ทิคเก็ตมาใช้

ปัจจุบัน ขสมก. มีพนักงานราว 13,000 คน โดยมีทั้งตำแหน่งที่พนักงานขาดและพนักงานเกิน จึงต้องจัดสรรโครงสร้างองค์กรใหม่ให้ลงตัว สำหรับตำแหน่งที่ขาดพนักงาน ก็จะจัดสรรพนักงานเดิมไปเติมก่อน แต่บางตำแหน่ง พนักงานเดิมก็ไม่สามารถดำเนินการได้ หรือเป็นตำแหน่งที่มีต้องการเพิ่มเติม เช่น พนักงานด้านไอที ทำให้ ขสมก. ต้องขอแก้ไขมติ ครม. เพื่อเปิดรับสมัครพนักงานใหม่ ด้านตำแหน่งที่มีพนักงานเกินความต้องการ ก็จะมีการเปิดเออรี่รีไทร์ต่อไป

“การปรับโครงสร้างองค์กรจะเริ่มเห็นผลปี 2562 โดยปีนี้จะเกษียณอายุ 400 คนและปีหน้าจะเกษียนอีก 400 คน ถ้ารวมกับโครงการเออรี่รีไทร์ ก็คาดว่าปีหน้าจะมีพนักงานลดลงประมาณ 1,000 คน จากนั้นก็ทยอยลดลงจนถึงปี 2565 แต่จะทำได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับระบบอี-ทิคเก็ตเป็นหลัก รวมถึงความสมัครใจของพนักงานด้วย” นายณัฐชาติกล่าว

นายณัฐชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าของการติดตั้งระบบอี-ทิคเก็ตว่า การติดตั้งระบบอี-ทิคเก็ตบนรถเมล์ 100 คันแรกสมบูรณ์แล้ว จึงคาดว่าใช้งานครบ 2,600 คันต่อไป แต่ระบบอี-ทิคเก็ตที่ติดตั้งบนรถเมล์เป็นเพียงระบบ 2.0 ขสมก. จึงต้องปรับปรุงซอร์ฟแวร์ให้อี-ทิคเก็ตแบบ 2.5 เพื่อรองรับตั๋วร่วมหรือบัตรแมงมุม ที่ใช้ร่วมกับรถไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight