Politics

‘บิ๊กตู่’ ลั่นไม่ยกเลิกซื้อ ‘เรือดำน้ำ’ แค่ชะลอพร้อมโยน ทร. เจรจาจีน!

“นายกรัฐมนตรี” ยืนยันไม่ยกเลิกซื้อ “เรือดำน้ำ” แค่ชะลอการจ่ายเงินไปปีหน้า พร้อมสั่ง “กองทัพเรือ” เจรจาจีน

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของกรรมาธิการ และเป็นเรื่องของกองทัพเรือที่จะต้องไปชี้แจง เนื่องจากตนได้ให้แนวทางไปแล้วว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ อีกทั้งยังต้องรอความเห็นของ กมธ.งบประมาณฯ ก่อน

เมื่อถามว่า ทางออกคืออะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กองทัพเรือ ก็ต้องไปคุยกับทางจีนในฐานะคู่สัญญาว่า จะชะลอการจ่ายเงินในปีหน้าได้หรือไม่

เรือดำน้ำ1963

เมื่อถามย้ำว่า เราจะเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำต่อเพียงแต่ชะลอการจ่ายเงินไปปีหน้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไปหยุดได้อย่างไร เพราะเป็นแผนการพัฒนาของกองทัพ และที่สำคัญเรามีหลักการ และเหตุผลที่ได้ชี้แจงไปแล้ว เนื่องจากเป็นแผนงานการพัฒนาทางเรือ และต้องไปดูว่าขณะนี้สถานการณ์รอบประเทศเป็นอย่างไร

“ถึงแม้ว่าจะมองดูเหมือนว่าไกล แต่ก็ไม่ไกลมากนัก และเราก็มีการฝึกร่วมมาโดยตลอด หลายปีมาแล้วเรื่องเรือดำน้ำ แต่เราก็ไม่เคยมีเรือดำน้ำที่จะฝึกร่วมกับเขาเลย ทั้งที่เรามีพื้นที่อาณาเขตทางเรือฝั่งทะเลมากมายมหาศาลพอสมควร โดยเฉพาะ 200 ไมล์ทะเลที่เกี่ยวกับน่านน้ำของเรา ก็ต้องระมัดระวังตรงนี้เอาไว้ อย่านำการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในแต่ละช่วงมาเปรียบเทียบกัน วันนี้ต้องมองไปข้างหน้าหากช้าเกินไปอาจไม่ทันเวลา สิ่งที่มีก็เพื่อการป้องกันรักษาทรัพยากรทางทะเลของไทย การประมงนอกน่านน้ำและในน่านน้ำ ปัจจุบันเราต้องใช้กองกำลังทางเรือเป็นจำนวนมาก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า ได้คุยกับ “ผบ.ทร.” อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ได้ให้แนวทางไปแล้วว่า ให้ไปคุยเจรจากับจีน ส่วนงบประมาณจำนวนกว่า 3,000 ล้านบาทก็ไม่สามารถโยกไปทำอะไรได้ ก็ต้องตีตกกลับมา และเงินตัวนี้เป็นไปตามพ.ร.บ.วินัยการเงินและการคลังอยู่แล้วว่าจะนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง

เมื่อถามว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางชะลอเรื่องเรือดำน้ำ ทางพรรคเพื่อไทยได้ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการครอบงำระบบนิติบัญญัติ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพียงแต่ตนให้แนวทางกับกองทัพเรือในฐานะที่เป็นรมว.กลาโหม อยากให้เข้าใจว่าตนมีสองบทบาท โดยบทบาทแรกคือนายกรัฐมนตรี ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นและมองให้รอบด้าน อีกบทบาทหนึ่งคือ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ที่ต้องดูแลกองทัพ อะไรก็ตามที่เป็นแผนงานของกองทัพและเป็นเรื่องที่เสนอมาในกรอบวงเงินของเขาที่มีอยู่

“ตนก็บอกว่าหากมีปัญหาเช่นนี้อยากให้ลองไปเจรจากับคู่สัญญาดู เนื่องจากมติครม.มอบหมายให้กองทัพเรือไปเจรจา จะมาบอกว่าปีหน้าเดี๋ยวก็มีปัญหาอีกก็ทำอะไรกันไม่ได้ ทำไมถึงไม่คิดว่าอำนาจนิติบัญญัติกำลังก้าวล่วงอำนาจบริหารบ้าง อยากให้ฟังสองทาง ถ้าเป็นเรื่องที่เสนอใหม่ก็เป็นอีกเรื่อง แต่เรื่องนี้มีการอนุมัติไว้แล้วชั้นต้นก็ต้องไปหารือกับมิตรประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo