Economics

โควิดฉุดยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 7 เดือนลดลง 13.8%

ยอดใช้น้ำมัน : กรมธุรกิจพลังงาน รายงานตัวเลขการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 7 เดือน ปี 2563 ลดลงถึง 13.8% หลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ยอดการใช้น้ำมันเครื่องบินดิ่ง 53%

นางสาวนันธิกา ธังสุพานิช อธิบดี กรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวม ยอดใช้น้ำมัน เชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 7 เดือนของปี 2563 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 13.8% โดยกลุ่มเบนซิน ลดลง 5.4% กลุ่มดีเซล ลดลง 4.5% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง 53.5% น้ำมันเตา ลดลง 20.7% ก๊าซหุงต้ม (LPG) ลดลง 16.8% และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ลดลง 31.7%

ยอดใช้น้ำมัน

โดยยังคงมีสาเหตุสำคัญมาจากภาครัฐได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลดลง อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ภาครัฐได้ประกาศมาตรการผ่อนคลาย Lockdown ระยะที่ 5 จึงส่งผลให้ภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือนก่อนหน้า เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัว

เมื่อดูการใช้น้ำมันแต่ละประเภท ประกอบด้วย การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน 30.4 ล้านลิตร/วัน ลดลง 5.4% แบ่งเป็น กลุ่มแก๊สโซฮอล์ 29.6 ล้านลิตร/วัน ลดลง 4.9% และน้ำมันเบนซิน 0.8 ล้านลิตร/วัน ลดลง 19.6%

สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ พบว่า อี85 อยู่ที่ 0.9 ล้านลิตร/วัน ลดลง 29% แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 8.1 ล้านลิตร/วัน ลดลง 15.4% อี20 อยู่ที่ 6.2 ล้านลิตร/วัน ลดลง 3.7% และแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 14.3 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 4%

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล 65.4 ล้านลิตร/วัน ลดลง 4.5% แบ่งเป็น บี7 อยู่ที่ 46.1 ล้านลิตร/วัน ลดลง 27.2% บี10 อยู่ที่ 12.5 ล้านลิตร/วัน และ บี20 อยู่ที่ 4.6 ล้านลิตร/วัน

ยอดใช้น้ำมัน

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) 9 ล้านลิตร/วัน ลดลง 53.5% เนื่องด้วยยังคงอยู่ในช่วงมาตรการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุญาตให้บุคคลเฉพาะกลุ่ม เดินทางเข้าออกประเทศได้และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม เครื่องบินพาณิชย์สำหรับนักท่องเที่ยวยังไม่ได้รับการอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ จึงส่งผลให้ความต้องการใช้ Jet A1 ยังคงลดลง

การใช้ LPG 14.9 ล้านกิโลกรัม/วัน ลดลง 16.8% แบ่งเป็น ภาคขนส่ง 2 ล้านกก./วัน ลดลง 29.6% ภาคปิโตรเคมี 5.9 ล้านกก./วัน ลดลง 21.3% ภาคอุตสาหกรรม 1.6 ล้านกก./วัน ลดลง 11.2% และภาคครัวเรือน 5.4 ล้านกก./วัน ลดลง 6.2%

การใช้ NGV 3.8 ล้านกก./วัน ลดลง 31.7% เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายการปรับราคาขายปลีก NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปเพื่อสะท้อนต้นทุน จึงทำให้ราคา NGV ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์หรือน้ำมันดีเซลหมุนเร็วแทน

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง 912,987 บาร์เรล/วัน ลดลง 9.6% โดยมีการนำเข้าน้ำมันดิบ 885,892 บาร์เรล/วัน ลดลง 4.6% คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 39,633 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากในเดือนกรกฎาคม 2563 มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาติ

ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศลดลง ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงไปด้วย สำหรับการนำน้ำมันสำเร็จรูป 27,094 บาร์เรล/วันลดลง 66.8% คิดเป็นมูลค่านำเข้าเฉลี่ย 1,303 ล้านบาท/เดือน

ขณะที่การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป 197,551 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 16.6% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 8,703 ล้านบาท/เดือน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo