Politics

‘สิระ’ เรียก ‘พี่เต้’ ดูคลิปนักการเมืองเรียกรับเงิน ขู่ไม่มาจะเปิดโปง!

เอาแล้ว!! “สิระ” เตรียมเรียก “มงคลกิตติ์” ดูคลิปนักการเมืองเรียกรับเงิน “บริษัทติดกล้องวงจรปิด” ลั่นมีทั้งภาพและเสียง หากไม่มา 1 ก.ย.นี้ จะเปิดเผยต่อสื่อ

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนำคลิปเสียงคล้าย “นักการเมืองดัง” เรียกเงินรับบริษัทติดตั้งกล้องวงจรปิดแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า ความจริงต้นฉบับจริงเป็นคลิปที่มีทั้งภาพและเสียง จึงยังไม่ขอเปิดเผย แต่จะเรียก นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ มาดูคลิปดังกล่าวก่อน เพื่อถามว่า “พอจะรู้จักคนในภาพหรือไม่”

สิระ เต้308631

ทั้งนี้ หากนายมงคลกิตติ์ ไม่มาภายในวันที่ 1 กันยายนจะนำคลิปภาพและเสียงดังกล่าวมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เพื่อให้ช่วยกันดูว่า หน้าคล้ายบุคคลใดหรือไม่

“หลังเปิดเผยคลิป ผมจะดูเรื่องของข้อกฎหมายว่าการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายผิดกฎหมายใดบ้าง ก่อนจะดำเนินการต่อไป” นายสิระ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ผ่านเฟชบุ๊กชี้แจงกรณีถูกพาดพิง โดยระบุว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าวแล้ว มองว่า ที่ผ่านมาก็เดินหน้าตรวจสอบโครงการรัฐหลายโครงการ จึงเป็นธรรมดาที่จะมีคนออกมาดิสเครดิต เพื่อสกัดไม่ให้เรื่องไปถึงกระบวนการยุติธรรม และโครงการ Safe Zone Schools ของกระทรวงศึกษาธิการ ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ตนเดินหน้าตรวจสอบ พร้อมยอมรับว่า ทุกโครงการที่ตรวจสอบจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาขอเคลียร์กับตนตลอด ผ่านบริษัทบ้าง ผ่านคนรู้จักบ้าง

ทั้งนี้ ตนรู้สึกเฉยๆ กับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เสียผลประโยชน์ แต่กระบวนการยุติธรรมมันไปไกลแล้ว ยิ่งผลประโยชน์มากผลกระทบก็เยอะ และหากเราไม่หยุด เขาก็ต้องใช้วิถีทางอื่น เช่น การทำลายชื่อเสียงเรา เป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ การจะตรวจสอบเรื่องของการทุจริต ก็จำเป็นจะต้องรู้ป่าทั้งป่าและการที่จะรู้ได้ บางครั้งก็ต้องแทรกซึมเป็นพวกของเขา เพื่อให้ได้ข้อมูลและข้อเท็จจริงทั้งหมดส่งให้หน่วยงานตรวจสอบ

นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่า ในเคสของโครงการที่พยายามจะเชื่อมโยงถึงตนนั้น สาบานด้วยเกียรติของนักเลง และลูกผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆแน่นอน และโครงการดังกล่าวก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ป.ป.ช.ใกล้จะชี้มูลแล้ว เพราะเรื่องนี้ เราลงไปตรวจสอบจริงตั้งแต่ 4 ปี ที่ผ่านมา ตรวจสอบจนสุดทางจนเลขา สพฐ. ในขณะนั้นก็ถูกย้ายพร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยด้วย อย่างไรก็ตามคดีนี้ หาก ป.ป.ช.ชี้มูลทุกอย่างก็จะรู้ความจริง และหากมีเรื่องที่ทำให้ตนต้องเสียหาย ก็ขอฟ้องดำเนินคดีกลับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo