Politics

‘ยุทธพงศ์’ ลั่นยังสู้ต่อ! ยันซื้อ ‘เรือดำน้ำ’ ส่อขัดกฎหมายเพียบ

พรรคเพื่อไทย ลั่นยังต่อสู้ต่อไป! หวังยับยั้งไม่ให้ซื้อ “เรือดำน้ำ” พร้อมจี้ “บิ๊กป้อม” เปิดหนังสือรับมอบอำนาจฉบับเต็ม ชี้หาก “จีทูจี” จริง ทำไมถึงโอนเงินเข้าบัญชีเข้าบริษัทเอกชน ไม่โอนเข้ารัฐบาลจีน

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในกมธ.วิสามัญพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 แถลงว่า เรื่องการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” สองลำของกองทัพเรือส่อขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ซึ่งตนยืนยันว่า ยังต่อสู้ต่อไป เพื่อให้มีการยับยั้งไม่ให้ซื้อเรือดำน้ำ แม้จะมีความพยายามผ่านงบประมาณและมีความพยายามล็อบบี้ แต่ตนไม่สนใจ ขอเดินหน้ายับยั้ง

ทั้งนี้ ในวันที่ 31 สิงหาคม เวลา 09.00 น. จะต้องติดตามดูการประชุมกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯว่าจะมีการดึงเกมเรื่องนี้อออกไปอีกหรือไม่ อีกทั้งในรายงานของคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ พบว่า มีสาระสำคัญที่ไม่กล้านำไปชี้แจง โดยเฉพาะหน้า 17 ที่ระบุว่า สัญญาการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และบันทึกการเจรจาไม่มีข้อผูกมัด ในการเลื่อนการจัดซื้อเรือดำน้ำดังกล่าว หมายความว่าสามารถเลื่อนได้

ยุทธพงศ์ เพื่อไทย30863

“แต่มีความพยายามบอกว่าเลื่อนไม่ได้ เพราะว่าจะโดนค่าปรับ แต่ผลสรุปของคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ มีความชัดเจนว่า ไม่เกิดความเสียหาย อีกทั้งทางสภาฯ ได้นัดประชุมวาระ 2 – 3 แล้วในวันที่ 21 – 22 กันยายน โดยทางสำนักงบประมาณได้แปรญัตติรอไว้แล้ว แต่แปรไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าเราต้องตัดงบประมาณอีกจำนวนเท่าไหร่” นายยุทธพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ เรื่องเรือดำน้ำ ถ้ายังไม่สรุป ก็ต้องรอกันไปอยู่แบบนี้ ไหนจะต้องทำข้อสังเกตของ กมธ.งบประมาณ เพื่อจัดพิมพ์ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 1,550 เล่ม รวมถึงจะต้องจัดส่งให้ถึงมือส.ส.ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ตนเกรงว่า สุดท้ายถ้าพิจารณากันไม่ทันภายใน 105 วันจะต้องประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเดิมของรัฐบาลไปเลย ซึ่งหากดูไทม์ไลน์แล้วกลัวว่าจะไม่ทัน

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนจะนำรัฐธรรมนูญมาต่อสู้ ถ้ารัฐบาลดึงดันจะผ่านเรือดำน้ำให้ได้ คือ หมวด 5 มาตรา 55 ที่บอกว่า รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพและทั่วถึงฯ ตนขอถามว่า ขณะนี้รัฐบาลดูแลสาธารณสุขและโรคโควิด-19 ได้แล้วหรือ ทำไมไม่เอาเงินไปซื้อเรือดำน้ำ มาให้ประชาชนตรวจโควิด-19

ขณะที่มาตรา 62 บอกว่า รัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่าเคร่งครัดนั้น ตนถามว่า จะจัดระบบภาษีให้ความเป็นธรรมต่อสังคมอย่างไร เพราะเงินซื้อเรือดำน้ำ มาจากภาษีประชาชน ถามว่า ทำไมไม่นำเงินมาช่วยประชาชนก่อน รวมถึงหมวด 6 มาตร 75 รัฐต้องจัดระบบเศรษฐกิจให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้ และประชาชนต้องอยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งถามว่า การซื้อเรือดำน้ำนั้น ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขหรือไม่

“ขอเรียกร้องพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถ้าเรื่องนี้เป็นจีทูจีต้องมีหนังสือรับมอบอำนาจฉบับเต็มจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนไปลงนาม ที่มีการมอบอำนาจให้พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. ในฐานะเสนาธิการทหารเรือไปลงนามแทน ให้ พล.อ.ประวิตร นำมาแสดง แต่ตนคิดว่าไม่มีหนังสือดังกล่าว” นายยุทธพงศ์ กล่าว

ยุทธพงศ์ เพื่อไทย308631
ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ถ้าเป็นจีทูจริง จะเข้าข่ายรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ที่ระบุว่า สัญญาที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม การค้าการลงทุน และความมั่นคงของรัฐ เข้าข่ายเป็นสนธิสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาภายใน 60 วันนั้น ตนตรวจสอบแล้ว ยังไม่เคยมีเรื่องดังกล่าว ทั้งจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และรัฐสภาที่มาจากากรเลือกตั้ง จึงส่อขัดมาตรา 178 เพราะตนสงสัยว่า ไม่การซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐจริงๆ และไม่เคยเห็นรัฐบาลจีน ส่งใบเสนอขายเรือดำน้ำมาให้รัฐบาลไทย ซึ่งต้องไปดูสัญญาจ่ายเรือดำน้ำลำแรก มีการจ่ายเงินให้ไปบริษัท China Shipbuilding & Offshore International (choc) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ที่มีการโอนเงินไป แต่ไม่มีการโอนเงินไปให้กระทรวงการคลัง หรือ กระทรวงกลาโหมของจีน

ทำไมจึงต้องโอนไปบริษัทดังกล่าวแทน และบริษัทดังกล่าว ก็ไม่มีใบมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน จึงมีความผิดปกติ และที่ผ่านมากองทัพเรือชี้แจงไม่ละเอียดเรื่องการลงนามจีทูจี ถ้าพยายามดึงดันให้ผ่านกมธ.งบประมาณ ตนจะเสนอพรรคเพื่อไทยยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยเปรียบเทียบกับพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความตกไป โครงการใหญ่ขนาดนี้ ผมยังไม่เคยเห็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตี และประธานนาธิบดี สี จิ้น ผิง เซ็นร่วมมือกันเรื่องเรือน้ำเลย” นายยุทธพงศ์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo