Politics

‘วิชา’ ชี้ชัดคดี ‘บอส’ ทำกันเป็นขบวนการ มีข้อน่าสงสัยทุกจุด!!

คดีบอสอยู่วิทยา! “วิชา มหาคุณ” ชี้ชัดทำกันเป็นขบวนการ ระบุหากได้อ่านรายงานมีข้อน่าสงสัยทุกจุด ถึงขั้นต้องออกปาก “ขนาดนี้เลยเหรอ” เตรียมประชุมสรุปคดี 30 ส.ค. นี้ ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรี

คดีบอสอยู่วิทยา : นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เปิดเผยภายหลังการประชุมที่ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ว่า สำหรับรายงานที่จะเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะจัดทำ 2 ส่วน คือ สรุปรายงานครบรอบ 10 วัน รอบที่ 3 และรายงานฉบับรวม ซึ่งมีข้อเสนอรวมอยู่ด้วย และจะเป็นรายละเอียดว่าสอบใครบ้าง มีเอกสารในสำนวนประกอบอย่างไร

คดีบอสอยู่วิทยา

โดยทั้งหมดจะเป็นผลจากการตรวจสอบ ที่ทำงานมาตลอด 30 วัน มีทั้งส่วนข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย รวมถึงส่วนสำคัญ คือ จะชี้ให้เห็นว่าอะไรเป็นข้อผิดพลาด อะไรเป็นการทำงานที่ไม่ถูกต้อง อะไรเป็นข้อปรับปรุงแก้ไข ซึ่งส่วนหนึ่งตำรวจดำเนินการไปแล้ว คือ การแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 147 และจะเสนอเพิ่มเติมในส่วนที่ นพ.แท้จริง ศิริพาณิชย์ เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ มาให้ถ้อยคำ ยืนยันว่า ถึงเมาขนาดนั้นก็ยังขับได้

“ซึ่งจะเป็นประเด็นที่จะส่งต่อให้ตำรวจ เพื่อนำข้อหานี้ เข้าไปอยู่ในพยานหลักฐานใหม่หรือไม่ เพราะตรงนี้จะไปบังคับไม่ได้ แต่คณะกรรมการ มีมติสนับสนุนความเห็น มูลนิธิเมาไม่ขับ ส่วนตำรวจจะไปสอบพยานผู้เชี่ยวชาญต่อไปหรือไม่ เป็นเรื่องของตำรวจ” นายวิชา กล่าว

นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการไม่มีอำนาจชี้ขาดว่าใครผิดใครถูก หรือ สั่งโยกย้ายใครได้ แต่สามารถนำเสนอเพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเท่านั้น เพื่อชี้มูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไปได้ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก และขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ เมื่อเห็นรายละเอียดมหากาพย์นี้ จะเห็นชัดเลยว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้จะเห็นภาพรวมของกระบวนการที่มีวิธีการร่วมกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะไปถึงใครอย่างไร หรือ ถึงขั้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ สำหรับจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นตั้งแต่กระบวนการสอบสวน ส่วนจะเปิดเผยหรือไม่เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

นายวิชา กล่าวา ในรายงานจะเกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจ และอัยการ ทั้งกระบวนการ และเพื่อจะเชื่อมโยงไปดูรายละเอียดอีก 30 วันข้างหน้า เรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จึงต้องนำเสนอข้อมูลให้นายกรัฐมนตรี และเป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชนว่า สมควรแก่การปฏิรูปแล้ว และสมควรว่า องค์กรตำรวจและอัยการ ต้องให้เขาเห็นชอบ โดยดุษฎียภาพ ไม่สามารถมาโต้แย้งได้ว่า จะมายุ่งเกี่ยวอะไรกับองค์กร ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงต้องเสนอด้วยความชัดเจน

ถ้าใครได้อ่านรายงานจะพบว่ามีรายละเอียดที่เป็นข้อน่าสงสัยทุกจุด เมื่ออ่านดูแล้ว ถึงกับต้องออกปากว่าขนาดนี้เลยเหรอ และจะฉายภาพรวมเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าในกระบวนการที่ทำนั้น ทำคนเดียวไม่ได้ แต่เป็นการทำในลักษณะที่จะใช้วิธีการทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ในรายงานไม่ชี้ชัดว่า ไปถึงไหน แต่เอาเป็นว่า มีผู้เข้าร่วมในกระบวนการนี้ทุกภาคส่วนเป็นมหากาพย์ เหมือนดูละคร จะมีรายละเอียดทั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนจะเปิดเผยหรือไม่แล้วแต่นายกฯ ผมไม่เปิดเผยเอง” นายวิชา กล่าว

คดีบอสอยู่วิทยา

สำหรับความเห็นและข้อเสนอของ นพ.แท้จริง ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่เรื่องเมาแล้วขับ ซึ่งจะส่งต่อตำรวจด้วย ว่า จะเอาเข้าสู่พยานหลักฐานใหม่ นำสู่กระบวนการฟ้องศาล ส่วนตำรวจจะหยิบไปหรือไม่ เป็นเรื่องของตำรวจ

อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยกับประเด็นของ นพ.แท้จริง ที่ระบุว่า ไม่อยากให้อ้างหลักฐาน เมาหลังขับ เพราะจะมีคนเอาไปเป็นตัวอย่าง ตำรวจต้องให้พ้นความผิดไป เพราะเคยให้นายวรยุทธพ้นผิด จึงเป็นแบบอย่างที่ไม่ควรเอาอย่าง

“นพ.แท้จริงให้ความเห็นดีมาก หากยังยอมให้ตำรวจทำสำนวนเมาหลังขับมาแบบนี้ ก็จะถูกนำไปเป็นตัวอย่าง โดยบอกว่า ก่อนขับรถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ในรถ พอถูกจับก็บอกว่า เพิ่งดื่มมาเพราะเครียด ซึ่งตำรวจต้องให้พ้นความผิดไป เพราะเคยให้ บอส วรยุทธ อยู่วิทยา พ้นความผิดไปแล้ว ก็กลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ควรเอาอย่าง ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล” นายวิชา กล่าว

ส่วนคดีการเสียชีวิตของ นายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญของคดีนี้นายวิชา กล่าวว่า ยังค้างอยู่ เพราะตำรวจภูธรภาค 5 ขอสอบสวนต่อ เช่นเดียวกับเส้นทางการเงิน ที่อยู่ระหว่างสอบสวน จึงยังไม่ได้รับรายงานเรื่องเส้นทางการเงิน แต่หน่วยที่รับผิดชอบรับเรื่องต่อแล้ว ต้องตรวจสอบให้จบ

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะประชุมเพื่อสรุปรายงานในวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 31 สิงหาคม 2563

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo