“นายกรัฐมนตรี” เมินตอบโต้โซเชียลติดแฮชแท็ก #ตามหาลูกประยุทธ์ ลั่นรู้ตัวเองดีว่าอะไรผิด – ถูก ยันไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกกล่าวหา ขอประชาชนตัดสินใจเอง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่โลกโซเชียลปลุกกระแสให้ติดแฮชแท็ก #ตามหาลูกประยุทธ์ พร้อมอ้างว่า นายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายโอนเงินให้กับลูกสาว โดยพล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า จะไม่ตอบโต้ และมั่นใจว่า ไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
“ผมไม่ตอบในเรื่องเหล่านี้ แต่ผมเชื่อมั่นในตัวผมเองว่า ผมไม่ได้ทำอะไรที่เป็นอย่างที่เขากล่าวอ้าง เพราะฉะนั้นผมจะไม่โต้ตอบอะไรทั้งสิ้น ประชาชนก็ต้องตัดสินกันเอาเอง และถ้ามันเกิดกับใครจะทํายังไง ความรู้สึกจะเป็นยังไง ท่านก็รู้อยู่แล้ว ผมก็ไม่ไปตอบโต้กับท่าน เพราะถือว่าในเรื่องข้อเท็จจริงผมรู้ตัวของผมว่าผมทำอะไรถูกอะไรผิดอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียนนิสิตนักศึกษาที่ยังคงมีต่อเนื่อง รวมทั้งมีข้อเรียกร้องต่างๆ โดยระบุว่าเป็นวิถีปกติของระบอบประชาธิปไตยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เดินหน้าทำงานหลายเรื่องประสบความสำเร็จ จึงขอให้ประชาชนพิจารณาข้อมูลทั้ง 2 ทางด้วย
“ผมไม่ห้าม ใครจะไปฟังใครก็ได้ แต่กลับมีการห้ามว่าอย่ามาฟังผม ดังนั้น ต้องมีตรงกลาง รับฟังกันทั้ง 2 ฝ่าย และอย่าให้มีการแตกความสามัคคีกันโดยเด็ดขาด ด้วยการบิดเบือน วันนี้ ขอให้ลดผลกระทบเหล่านี้ไปด้วย เพราะถูกจับตามองจากหลายส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ดีใจที่ได้พบกับนิสิตนักศึกษาในช่วงหนึ่งระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่ จ.ระยอง และมีการยื่นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ และสร้างสรรค์ในหลายเรื่อง ทั้งด้านการศึกษา การสร้างอาชีพ และสิ่งแวดล้อม มีหลายเรื่องรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ เป็นการแสดงให้เห็น ว่า รัฐบาลรับฟังข้อเสนอที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ เช่น ระบบการศึกษา ที่ต้องปรับปรุงหลักสูตร ทำให้คนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ จะต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นให้ได้ ต้องไม่มองว่ารัฐบาลใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง ไปดำเนินการกับนักศึกษา เพราะสิ่งที่ทำเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะนี้มีนักลงทุนต้องการเข้ามาลงทุน แต่ยังห่วงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง จุดยืนรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในข้อ 12 ที่ระบุไว้ว่าสนับสนุนให้มีการศึกษาการ รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และการดำเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“เป็นเรื่องของวิปรัฐบาลและพรรคร่วม ที่จะเสนอร่างของแต่ละพรรค ที่ทุกคนมีสิทธิเสนอได้ ดังนั้น ขอให้รับฟังในขั้นตอนการพิจารณาต่อไป ผมไม่ขัดข้องแต่อย่างใด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราชกิจจาฯ ประกาศ ให้ ‘โรงพยาบาลยศเส’ ล้มละลาย
- คุมตัว ‘อานนท์-ไมค์’ ฝากขังศาลจังหวัดธัญบุรี คดีชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน
- ‘บิ๊กตู่’ ไม่ทนจวก ‘สมศักดิ์-ปวิน’ ทำเพจ ‘รอยัลลิสต์ มาร์เก็ตเพลส’ – สั่งตั้งทีมสู้เฟซบุ๊กฟ้องไทย
