Economics

มอเตอร์เวย์ ‘พัทยา-มาบตาพุด’ เปิดแล้ว! ‘บิ๊กตู่’ ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน

มอเตอร์เวย์ ‘พัทยา-มาบตาพุด’ เปิดแล้ว! “นายกรัฐมนตรี” หวังส่งเสริมศักยภาพขยายการค้า การลงทุน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดทดลองใช้บริการทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ – บ้านฉาง ช่วงพัทยา – มาบตาพุด อย่างเป็นทางการ พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม

โดยมี นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง และหน่วยงานในพื้นที่ให้การต้อนรับ ในวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ณ ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอู่ตะเภา จังหวัดระยอง

มอเตอร์เวย์

ภายหลังจากที่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้เปิดใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยาย ช่วงพัทยา – มาบตาพุด โดยให้ประชาชนทดลองใช้บริการด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอู่ตะเภาไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด กรมทางหลวง ได้ดำเนินการก่อสร้างและวางระบบด่านฯ ที่เหลือ ได้แก่ ด่านห้วยใหญ่และด่านเขาชีโอน แล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเพิ่มอีก 2 ด่านที่เหลือในวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการที่กระทรวงคมนาคมพยายามเร่งผลักดันจนประสบผลสำเร็จ

โดยที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้เร่งรัดโครงการต่างๆ รวมทั้งมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการก่อสร้าง ปรับปรุง และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในทุกโหมดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับคุณภาพชีวิตให้พี่น้องประชาชน โดยโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ช่วงพัทยา – มาบตาพุด เป็นงานก่อสร้างถนนแนวใหม่ผ่านพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง มีจุดเริ่มต้นก่อสร้างกิโลเมตรที่ 2+300 เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 7 บริเวณทางแยกต่างระดับมาบประชัน ผ่านอำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 3 บริเวณอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง รวมระยะทาง 32 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม 17,784 ล้านบาท

มอเตอร์เวย์

ซึ่งกรมทางหลวงใช้เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางซึ่งเป็นรายได้ที่จัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางจากทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันมาใช้ดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด รูปแบบการก่อสร้าง เป็นทางมาตรฐานชั้นพิเศษขนาด 6 ช่องจราจรไป – กลับ ก่อสร้างทางแนวใหม่ตามมาตรฐานทางหลวงพิเศษ รูปแบบเป็นผิวจราจรคอนกรีตหนา 28 เซนติเมตร

แบ่งแยกทิศทางจราจรด้วยเกาะกลางถนนลดระดับไหล่ทางด้านในกว้าง 1 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 3 เมตร ควบคุมการเข้า – ออก อย่างสมบูรณ์ มีอาคารเก็บค่าธรรมเนียมถาวร 3 แห่ง คือ ด่านฯ ห้วยใหญ่ เชื่อมสู่บ้านอำเภอ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ด่านฯ เขาชีโอน เชื่อมสู่ทางหลวงหมายเลข 331 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และด่านฯ อู่ตะเภา เชื่อมสู่ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง และอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง

ทั้งนี้ จะใช้ระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางประกอบด้วยระบบเงินสด (MTC) และแบบอัตโนมัติ (ETC) ซึ่งสามารถพัฒนาสู่รูปแบบการเก็บค่าผ่านทางแบบไร้ไม้กั้นในอนาคต ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทาง ปัจจุบันโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ – บ้านฉาง ช่วงพัทยา – มาบตาพุด ก่อสร้างเสร็จแล้วและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบครบทั้ง 3 ด่านอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 สิงหาคม 2563 และเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. เป็นต้นไป โดยไม่เก็บค่าผ่านทางเพื่อทดสอบระบบ และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ถือเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สำคัญ

โดยจะช่วยสนับสนุนการขยายโอกาสการค้าและการลงทุน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต สร้างความกินดี อยู่ดีให้แก่ประชาชน ปัจจุบันกรมทางหลวงอยู่ระหว่างเตรียมเสนอออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมผ่านทางที่จะเรียกเก็บตามระยะทางจริงแบ่งเป็น รถยนต์ 4 ล้อ 1 บาท/กม. รถยนต์ 6 ล้อ 1.6 บาท/กม. และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อ 2.3 บาท/กม.

มอเตอร์เวย์

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ – บ้านฉาง ช่วงพัทยา – มาบตาพุด ส่วนต่อขยายเชื่อมท่าอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมด้วยนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม และนางอัมพวัน วรรณโก ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 24 สิงหาคม 2563

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 ช่วงพัทยา – มาบตาพุด ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา มีแผนก่อสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับผู้โดยสารที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (EEC) ใช้วงเงินลงทุนประมาณ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 3,940 ล้านบาท ค่าเวนคืน 260 ล้านบาท

ขณะนี้ กรมทางหลวง อยู่ระหว่างศึกษาแนวเส้นทางและรูปแบบโครงการ คาดว่า ภายในสิ้นปีนี้ จะศึกษาแล้วเสร็จ จากนั้นจะดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียด (Detailed Design) พร้อมศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2565 และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567 ซึ่งรูปแบบโครงการมีลักษณะเป็นทางหลวงพิเศษ ขนาด 4 ช่องจราจร แนวเส้นทางเริ่มต้นจากทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอู่ตะเภา

โดยมุ่งหน้าทิศใต้ข้ามทางรถไฟสายตะวันออกซึ่งขนานกับแนวรถไฟความเร็วสูง และตัดกับทางหลวงหมายเลข 3 เพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่อาคารผู้โดยสารใหม่ของสนามบินอู่ตะเภา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมขนส่งในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงขยายโอกาสการค้าและการลงทุน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น พร้อมทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo