Politics

‘เพื่อไทย’ ต้านซื้อ ‘เรือดำน้ำ’ แฉเอกสารลับจีทูจี – ขู่ดึงดันซื้อปลุกประชาชนไล่รัฐบาล

‘เพื่อไทย’ ต้านซื้อ ‘เรือดำน้ำ’ ชี้พิรุธ สัญญาจีทูจีซื้อเรือดำน้ำ เตือนกมธ.งบประมาณฯ ดึงดันผ่าน ปลุกประชาชนร่วมชุมนุมกับนิสิต นักศึกษา ขับไล่รัฐบาล

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วย นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน แถลงถึงกรณีการอนุมัติซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่าที่ประชุมอนุกรรมาธิการเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ตอนแรกมีมติเสมอกัน 4 ต่อ 4 แต่สุดท้าย นายสุพล ฟองงาม ประธานอนุกรรมาธิการฯ ลงมติเห็นชอบ ทั้งที่ตำแหน่ง ประธานไม่ควรลงมติ ต้องวางตัวเป็นกลาง แต่นายสุพล กลับมาลงอีกเสียงหนึ่งเสียง ทำให้มติเป็น 5 ต่อ 4 ที่เห็นชอบการจัดซื้อเรือดำน้ำ

'เพื่อไทย'ต้านซื้อ'เรือดำน้ำ'

ต่อมามีการตั้งคำถามว่า มีการล็อบบี้ในคณะอนุกรรมาธิการฯหรือไม่  ครั้งแรกกองทัพเรือเข้ามาเสนองบประมาณ แต่อนุกรรมาธิการฯเห็นว่า หากการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกไปแล้ว และไม่ได้ผูกพันลำที่ 2 และ 3 ขอให้ชะลอไว้ก่อน อย่าเพิ่งซื้อ แต่กองทัพเรือไม่ยอม ดึงดันให้ซื้อให้ได้ สุดท้ายงบประมาณก็ถูกแขวนไว้ ไม่ให้ผ่าน เพราะอนุกรรมาธิการ มีเสียงเป็นเอกฉันท์ว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำไม่จำเป็นในขณะนี้

'เพื่อไทย'ต้านซื้อ'เรือดำน้ำ'

มีกรรมาธิการคนหนึ่งที่ออกเสียงไม่ซื้อเรือดำน้ำ ถึงกับบอกในห้องประชุมว่า ลองให้ทหารถอดเครื่องแบบแล้วถามชาวบ้านในต่างจังหวัด จะพบว่าชาวบ้านไม่ยอมให้ซื้อเรือดำน้ำแน่นอน แต่สุดท้ายการลงมติอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กรรมาธิการคนดังกล่าวนี้ก็โหวตให้ซื้อเรือดำน้ำ จึงเชื่อว่ามีการล็อบบี้จากผู้ใหญ่ในรัฐบาลแน่นอน

นายยุทธพงศ์ ยังได้แสดงเอกสารบันทึกข้อตกลงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ของกองทัพเรือต่อสื่อมวลชนที่มีการระบุว่า เป็นสัญญาจีทูจี พร้อมกล่าวว่า เมื่อมาตรวจสอบ กลับพบว่าไม่ใช่สัญญาจีทูจี แต่เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงข้อตกลง และสัญญาที่เซ็นไปก็เป็นเพียงแค่การจัดซื้อเรือดำน้ำ 1 ลำเท่านั้น ไม่มีลำที่ 2 หรือ 3 ไม่มีข้อผูกพันอะไร เอกสารที่ลงนามสัญญา ฝั่งไทย คือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ที่ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ ในปี 2560 และฝั่งจีนที่ลงนามด้วย คือ บริษัทเอกชน ไม่ใช่รัฐบาลจีน จุดนี้จะนำไปสู่หนังม้วนยาว

“ขอตั้งข้อสังเกตว่าทำไมปกปิดเอกสารมาตลอด หากเป็นสัญญาแบบจีทูจีจริง ผู้ลงนามฝั่งไทย ก็ไม่มีอำนาจลงนามแทนรัฐบาลไทย เพราะผู้มีอำนาจ คือนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อีกทั้งยังไม่มีหนังสือมอบอำนาจ จากรัฐบาลไทยด้วย และตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ ก็ไม่สามารถรับมอบอำนาจได้ คนที่รับมอบอำนาจได้ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเท่านั้น ดังนั้นสัญญาดังกล่าวจึงต้องเป็น“โมฆะ” แต่เรื่องนี้ในคณะอนุกรรมาธิการฯ กองทัพเรือไม่สามารถชี้แจงได้เลย อ้างแต่เรื่องความมั่นคงทางทะเล ทั้งที่ความอดอยากของประชาชนทั้งภัยพิบัติน้ำท่วมในขณะนี้ สำคัญกว่าเรือดำน้ำ” นายยุทธพงศ์ กล่าว

'เพื่อไทย'ต้านซื้อ'เรือดำน้ำ'

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่าแนวทางต่อไปที่จะต่อสู้ วันที่ 26 สิงหาคม เวลา 13.00 น. คณะกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ จะให้อนุกรรมาธิการฯชี้แจงเรื่องเรือดำน้ำ ตนจะเสนอให้กรรมาธิการชุดใหญ่ทบทวนเรื่องนี้ ขอให้กองทัพเรือนำหนังสือสัญญามาแสดง หากแสดงไม่ได้ สัญญาจะต้องเป็นโมฆะ เนื่องจากไม่มีความโปร่งใส

‘เพื่อไทย’ ต้านซื้อ ‘เรือดำน้ำ’ ขู่ดึงดันปลุกม็อบไล่

ทั้งนี้หากคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ ดึงดันให้ผ่าน จะเสนอให้มีมติในคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ โดยให้กรรมาธิการลงชื่อเป็นรายบุคคลแบบเปิดเผยชื่อ เพื่อดูว่า ใครเห็นความสำคัญของเรือดำน้ำ มากกว่าความอดอยากของประชาชน แต่หากโหวตแล้วยังแพ้เสียงส่วนใหญ่ในซีกรัฐบาล ก็จะเดินหน้าต่อไปเพื่อฟ้องกับประชาชน  เรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากล ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยประกาศว่า เลือกเรือดำน้ำจีน เพราะได้คุณภาพดีในราคาประหยัด อีกทั้งยังซื้อ 2 แถม 1 นั้น แล้วทำไมวันนี้ กลายเป็นว่าซื้อเรือดำน้ำทั้งหมด 3 ลำ แปลว่าอะไร

'เพื่อไทย'ต้านซื้อ'เรือดำน้ำ'

“หากนายกรัฐมนตรี ยังดึงดันที่จะซื้อเรือดำน้ำ เชื่อว่าจะเป็นจุดจบของรัฐบาล หากรัฐบาลเดินหน้าต่อ จะขอเชิญชวนประชาชน ให้ออกไปร่วมการชุมนุมกับนิสิต นักศึกษา เพื่อขับไล่รัฐบาล ผมขอถามนายกรัฐมนตรีว่า หัวใจทำด้วยอะไร นายกไทย หัวใจเรือดำน้ำจีน” นายยุทธพงศ์ กล่าว

เมื่อถามว่า มีบุคคลใกล้ชิดรัฐบาลเป็นนายหน้าใช่หรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า จะต้องเจาะลึกในรายละเอียดต่อไป

 ขณะที่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ได้ตั้งข้อสังเกตและบันทึกไว้ชัดเจนว่า จะขอนำไปต่อสู้ในสภา ทั้งในวาระสองและการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้  เรื่องนี้น่าตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นใบสั่งหรือไม่ เพราะคนอภิปรายไม่มีใครเห็นด้วย แต่พอลงมติกลายเป็นคนละเรื่อง สิ่งที่รัฐบาลเคยพูดไว้ว่าพี่น้องประชาชนต้องรัดเข็มขัด ต้องประหยัด การ์ดต้องสูง แต่รัฐบาลกลับมาดันเรื่องเรือดำน้ำ
อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight