วิกฤติโควิด-19 พลิก เซเว่น อีเลฟเว่น ใช้วิกฤติ สร้างโอกาส เผยตลอด 30 ปี ปรับตัวต่อเนื่อง แต่โควิด ทำให้ต้องเร่งจากเป้าหมาย 5 ปี มาทำใน 2 เดือน
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยในงาน iCreator Conference 2020 งานรวมกลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และแพลตฟอร์มต่างๆ ว่า วิกฤติโควิด-19 พลิก เซเว่น อีเลฟเว่น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้น เห็นได้จากเดิม ที่เซเว่นอีเลฟเว่น ประเมินว่า การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี จะเห็นชัดเจนในอีก 5 ปีข้างหน้า และได้วางแผนพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในช่วง 5 ปีไว้แล้ว แต่จากการเกิดวิกฤติโควิด-19 ทำให้เซเว่นอีเลฟเว่น ต้องเร่งดำเนินการภายใน 2 เดือน เพื่อให้สอดรับกับ New Normal ที่เกิดขึ้นจากโควิด-19
นายยุทธศักดิ์ ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง ของ เซเว่นอีเลฟเว่น ที่เกิดขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว เช่น การพัฒนา แคช วอลเล็ต ตอบรับสังคมไร้เงินสด และไร้สัมผัส แทนการใช้เงินสด โดยลูกค้าสามารถชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านแพล็ตฟอร์มทรู วอลเล็ต
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาการให้บริการเดลิเวอรี่ จัดส่งสินค้าให้ผู้บริโภคถึงบ้าน และสถานที่ที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงการเพิ่มสินค้าเพื่อจำหน่ายทางออนไลน์ หรือ ช่องทาง อีคอมเมิร์ช ผ่าน “All Online” และการปรับสินค้าที่จำหน่าย เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เดิมเน้นเป็นชาม เปลี่ยนเป็นการขายบะหมี่ซองแพคใหญ่ เป็นต้น
ปัจจุบัน เซเว่น อีเลฟเว่น มีสาขาในไทย จำนวน 12,098 สาขา มีลูกค้าเฉลี่ยวันละ 1,200 คน หรือวันละ 14 ล้านคน
จะเห็นได้ว่า วิกฤติที่เกิดขึ้น ทำให้เซเว่นอีเลฟเว่น มองเห็นและสร้างโอกาส พร้อมกับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เน้นการให้ความสะดวก มีสินค้าหลากหลาย ที่สามารถซื้อได้ทั้งจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น หรือที่ไหนก็ได้ ที่ลูกค้าต้องการ และสามารถซื้อได้ทุกเวลา พร้อมช่องทางจ่ายเงิน ที่สะดวกสบาย
นอกจากนี้ ตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เซเว่นอีเลฟเว่น ได้ปรับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มมีการเป็นร้านสะดวกซื้อ ขายสินค้าที่จำเป็น จับกลุ่มลูกค้าอายุระหว่าง 5-25 ปี เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้ากลุ่มเดิมอายุมากขึ้น วิถึชีวิตเปลี่ยนไป พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
ขณะเดียวกัน ในมุมของการทำธุรกิจ ก็มีคู่แข่งเข้ามาในตลาดคอนวีเนียนสโตร์มากขึ้น เห็นได้จากการเปิดเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส หรือ มินิ บิ๊กซี ทำให้เซเว่นอีเลฟเว่น ปรับตัวจากร้านสะดวกซื้อ เป็น ร้านอิ่มสะดวก เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งผลประกอบการครึ่งปีแรก (เดือนมกราคม-มิถุนายน2563) ระบุว่า มีรายได้รวม 273,881 ล้านบาท ลดลง 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านกำไรสุทธิ อยู่ที่ 8,532 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักของการลดลงทั้งรายได้ และผลกำไร มาจากรายได้จากการขายสินค้าที่ลดลง จากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
ในส่วนของไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 128,027 ล้านบาท ลดลง 10.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเท่ากับ 26,442 ล้านบาท ลดลง 14.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจาก การปรับตัวลดลงของรายได้ จากการขายและบริการ ทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจค้าส่ง “สยามแม็คโคร” อันเป็นผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ เช่นกัน
ทั้งนี้ มาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลกระทบกับรายได้ของบริษัทมากที่สุด ในเดือนเมษายน และเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนตามลำดับ หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด
ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 เซเว่นอีเลฟเว่น ได้เปิดร้านสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 106 สาขาในทุกประเภท ทั้งร้านสาขาของบริษัท, ร้าน store business partner (SBP) และ ร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัทมีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 12,089 สาขา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ราชประสงค์’ ปั้นโมเดลพื้นที่สาธารณะ ‘ไร้โควิด-19’ เตรียมพร้อมเปิดบริการ
- ‘การบินไทย ไทยสมายล์’ คว้ามาตรฐาน SHA สายการบินแรกของประเทศ
- ท่องเที่ยวปลอดภัย ด้วย ‘มาตรฐาน SHA’ ผ่านเกณฑ์ 10ประเภทแล้ว 4,159 ราย
