Environmental Sustainability

‘เทียนทะเล’ ขึ้นบัญชีคุ้มครองแล้ว ลักลอบขุด เจอคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท

กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง  ออกคำสั่งคุ้มครอง “เทียนทะเล” สกัดการลักลอบขุดล้อม ฝ่าฝืนเจอโทษสูงสุด จำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “วราวุธ” ย้ำหน่วยงานดำเนินการอย่างเด็ดขาด

นายโสภณ ทองดี อธิบดี กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง เปิดเผยว่า เทียนทะเล เป็นไม้ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีไม้หวงห้าม ตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการกำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 ทำให้ไม้เทียนทะเลไม่ได้มีกฎหมายคุ้มครอง

เทียนทะเล

ที่ผ่านมา ทางกรมสามารถดำเนินการได้เพียง แจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุก ทำลายป่าเท่านั้น เป็นเหตุให้การกำกับ ควบคุม ดูแล ตามกฎหมาย ของเจ้าหน้าที่ เป็นไปได้ยาก ไม่เต็มประสิทธิภาพ

เมื่อราวกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีหนังสือขอให้กรมป่าไม้ พิจารณาเสนอไม้เทียนทะเล ที่ขึ้นในป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ในบัญชีไม้หวงห้ามต่อไป

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน กว่าจะผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้

ดังนั้น เพื่อเป็นการระงับการกระทำ ที่ทำให้ไม้ชนิดนี้ ที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้วในธรรมชาติ ไม่ให้ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว อันจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งของประเทศ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 ประกอบมาตรา 17 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558

จึงออกคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 977/2563 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2563 เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล เพื่อเป็นการกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล มิให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จากการลักลอบขุดล้อมไม้เทียนทะเล เพื่อการค้าไม้บอนไซ และนำไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนอื่นใด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2563

ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืน จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ใดพบเห็นผู้กระทำความผิดขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ในทุกช่องทางตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้เร่งรัดดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด

ทางด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม้เทียนทะเลจัดเป็นไม้มีคุณค่าทางระบบนิเวศ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตนเองได้มีโอกาสลงตรวจพื้นที่ป่าชายเลนในหลายพื้นที่ และได้พบเห็น ไม้เทียนทะเล ในธรรมชาติว่า มีความสวยงาม และทราบว่า เป็นไม้ที่มีความต้องการของตลาดปัจจุบัน แต่ยังไม่มีประกาศอยู่ในบัญชีไม้หวงห้าม

เทียนทะเล

การบุกรุกลักลอบตัดไม้เทียนทะเล ในป่าชายเลน ถูกพบเห็น และดำเนินคดีอยู่บ่อยครั้ง จึงได้มอบนโยบายกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงแนวทางการบริหารจัดการ และควบคุมรักษา ไม้เทียนทะเล ให้คงอยู่ในธรรมชาติ

นายจตุพร จึงได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการออกคำสั่ง และมาตรการคุ้มครอง ไม้เทียนทะเล ให้คงอยู่ตามธรรมชาติอย่างเร่งด่วน

นายวราวุธบอกด้วยว่า  มูลค่าไม้เทียนทะเล ที่ซื้อขายกันที่ว่ามีราคาสูงแล้วนั้น เป็นเพียงมูลค่า ที่เกิดจากความพึงพอใจระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย ซึ่งไม่รวมมูลค่าที่เป็นต้นทุนธรรมชาติ คุณประโยชน์ ต่อระบบนิเวศ และจะเป็นสมบัติของลูกหลานในอนาคต ที่ยากจะประเมินมูลค่า เป็นตัวเงินได้

การบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อเข้าตัดไม้เทียนทะเล เป็นความผิดทางอาญา ของป่าก็ควรที่จะอยู่กับผืนป่า ธรรมชาติได้สร้างสมดุลของระบบนิเวศทุกอย่างไว้หมดแล้ว โดยได้กำชับ กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเด็ดขาด เพื่อรักษาสมดุลทางธรรมชาติ ให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ และยั่งยืน ต่อไป

ทางด้านพลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 และกรมทรัพยากรทางทะเล ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจ เพื่อส่งเสริม และรักษาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู รวมถึง งานด้านการป้องกัน และปราบปราม การกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 มีความพร้อม ที่จะร่วมสนธิกำลัง ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง ในการดำเนินการ เพื่อป้องกัน และรักษา ไม้เทียนทะเล ให้คงอยู่กับพื้นที่ป่าชายเลน ของประเทศไทย อย่างยั่งยืนตลอดไป

sea sea11

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo