“หมอธีระ” จวกแถลงข่าวอัปยศ พูดถึงแต่ “ซากไวรัส” ทำคนไขว้เขว หยิบผลการศึกษายืนยัน “โควิด-19” แม้อาการดีขึ้นจนไม่พบเชื้อในโพรงจมูก แต่ “อุจจาระ-ปัสสาวะ” ยังแพร่เชื้อได้ ย้ำป้องกันตัวให้ดี
วันนี้ (20 ส.ค. 63) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงกรณีที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศไทย 2 ข้อความว่า
ข้อความแรก : พูดถึงแต่ “ซากไวรัส” โควิด-19
“แถลงข่าวอัปยศ…ประสบความสำเร็จสูงสุด
เพราะทำให้สื่อต่างๆ จำนวนมาก เข้าใจว่าทั้งสองรายเป็นซากไวรัส ติดจากต่างประเทศ และไม่มีอันตรายใดๆ
ทีมวางแผนสื่อสารเก่งมากนะครับ
เริ่มจากที่คนมุ่งเป้ากังวลแค่เคสที่สอง แต่จู่ๆ มาแถลงสองเคส โดยเอาเคสแรกมาทำให้เบลอ เพื่อผสมปนเป สับสน ไม่เข้าใจ
บอกเฉพาะข้อมูลที่ไม่สำคัญ ข้อมูลนอกเรื่อง และตบท้ายด้วยการแปลผลแบบบิดไปตามต้องการ
ไม่แปลกใจว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้
เก่งมากครับ…แต่ไม่ถูกต้อง”
ข้อความที่ 2 : ไม่พบไวรัสในจมูก แต่ “อุจจาระ-ปัสสาวะ” ยังแพร่เชื้อได้
“20 สิงหาคม 2563
โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
วันนี้ฟังรายการโทรทัศน์ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลการให้สัมภาษณ์ของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง โดยมีการให้ข้อมูลว่า หากได้รับการดูแลรักษาจนดีขึ้นแล้ว อาจตรวจเจอซากไวรัสได้…ซึ่งเป็นความรู้ที่ถูกต้อง
แต่ข้อมูลถัดมา กล่าวทำนองว่า ไม่สามารถแพร่เชื้อไวรัสไปติดผู้อื่นได้นั้น…ไม่น่าจะเป็นความรู้ที่ถูกต้อง
แม้ไวรัส SARS-COV-2 ที่ทำให้เกิดโรค COVID-19 นั้นส่วนใหญ่จะติดเชื้อกันผ่านทางระบบทางเดินหายใจ
ทีมวิจัยจากเกาหลี โดย Jeong HW และคณะ ได้ทำการศึกษาโดยเก็บสิ่งส่งตรวจ ประเภทน้ำลาย ปัสสาวะ และอุจจาระ จากผู้ป่วยโรค COVID-19 จำนวน 5 คน และแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถสกัด “ไวรัสที่มีชีวิต” จากทั้งน้ำลาย ปัสสาวะ และอุจจาระได้
ที่สำคัญมากคือ สามารถตรวจพบได้ใน “ผู้ติดเชื้อที่อาการดีขึ้นแล้ว” ถึง 15 วันหลังจากเริ่มมีอาการ
นั่นตอกย้ำให้เราทุกคนต้องระวัง และป้องกันตัวให้ดี
แม้จะได้รับการดูแลรักษาจนครบแล้ว ตรวจไม่เจอเชื้อในโพรงจมูกแล้ว แต่อาจยังมีโอกาสที่พบในปัสสาวะ อุจจาระได้อีกระยะหนึ่ง
การใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือ รักษาระยะห่าง เป็นสิ่งที่ทุกคนควรปฏิบัติให้เป็นนิสัย
นอกจากนี้ ยังต้องระวังเวลาเข้าห้องสุขาสาธารณะด้วยนะครับ ทำความสะอาดให้ดี ล้างมือทุกครั้ง และเวลาเข้าใช้บริการก็ควรใส่หน้ากากเสมอเพื่อป้องกันละอองจากโถปัสสาวะหรือโถส้วมกระเด็น
…วันนี้มีเคสใหม่เพิ่มอีก 7 คน ล้วนเป็นคนไทยเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ขอให้ปลอดภัย หายไวไวทุกคนครับ…
เรื่อง COVID-19 นั้นเป็นโรคใหม่ มีความรู้ใหม่เกิดขึ้นตลอดทุกวัน ทั้งที่ตีพิมพ์ในฐานข้อมูลหลักทางการแพทย์ และที่เผยแพร่โดยยังไม่ได้ผ่านการรีวิวอย่างเป็นขั้นตอนมาตรฐาน แต่ก็มีความสำคัญ ดังนั้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จึงจำเป็นต้องอัพเดตความรู้ใหม่ทุกวัน มิฉะนั้นก็จะมีโอกาสที่จะออกนโยบาย มาตรการ หรือคำแนะนำ ที่อาจไม่ถูกต้องเหมาะสม และก่อให้เกิดผลกระทบวงกว้างได้
อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่ทุกคนจะตามทันหรือรู้ทุกเรื่อง การที่อัพเดตอย่างสม่ำเสมอ และนำมาใช้ทบทวน และปรับนโยบาย มาตรการ และคำแนะนำต่างๆ จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ
เหนืออื่นใด ควรระลึกเสมอว่า การจะทำคลอดนโยบาย มาตรการ และคำแนะนำใดๆ มานั้น ต้องใช้ความรู้ หลักฐานวิชาการเชิงประจักษ์ ที่พิสูจน์ได้ มีระดับความเข้มแข็งของหลักฐานวิชาการที่น่าเชื่อถือ มากกว่าการใช้แค่ความคิดเห็นหรือประสบการณ์ส่วนตัวของคนใดคนหนึ่ง
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องยา Hydroxychloroquine เป็นต้น ความรู้ปัจจุบัน พิสูจน์แล้วว่า ไม่ได้ผล แต่ยังมีบางคนที่อาจเชื่อจากความคิดหรือประสบการณ์ส่วนตัว หากเป็นเช่นนั้น นโยบายหรือแนวทางเวชปฏิบัติที่จะใช้ในการดูแลคนหมู่มาก ควรพิจารณาทบทวนให้สอดคล้องกับหลักฐานวิชาการมากกว่าที่จะทำตามความคิดหรือประสบการณ์ส่วนตัว ยกเว้นกรณีที่ไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น
รักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวอยู่เสมอนะครับ
ประเทศไทยต้องทำได้
ด้วยรักต่อทุกคน
อ้างอิง
Jeong HW et al. Viable SARS-CoV-2 in various specimens from COVID-19 patients. Clin Microbiol Infect. 2020 Jul 22;S1198-743X(20)30427-4.”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เลบานอน’ วิกฤติหนัก! โควิด-19 เข้าขั้นอันตรายมาก คนจนพุ่งเกินครึ่งประเทศ
- ‘หมอยง’ ไขข้อข้องใจ พบเชื้อโควิด หลังกักตัว 14 วัน ‘เป็นไปได้’
- ยิปโซ ขอโทษกลางไอจี หวั่นกองเดือดร้อน หลังไข้ขึ้นสูง รีบตรวจไข้หวัดใหญ่-โควิด