จีนเผยตัวเลขการค้าเดือนสิงหาคม พบยอดได้เปรียบดุลการค้าต่อสหรัฐ พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ แม้ยอดนำเข้า และการส่งออกโดยรวมเมื่อเดือนที่แล้ว จะโตลดลงอย่างมาก
ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีน แสดงให้เห็นว่า ในเดือนสิงหาคม จีนได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 31,000 ล้านดอลลาร์ แม้สหรัฐจะดำเนินมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ในเดือนดังกล่าว จีนมียอดส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้น 9.8% ขณะยอดนำเข้าขยับขึ้นมา 20% ซึ่งเป็นตัวเลขการเติบโตที่ลดลงอย่างมาก จากเดือนกรกฏาคม ที่ส่งออกพุ่งไป 12.2% และนำเข้าขยายตัวขึ้น 27%
อย่างไรก็ดี จีนยังมีตัวเลขได้เปรียบดุลการค้าทั่วโลกทรงตัวอยู่ที่ระดับ 27,900 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ เพิ่มความรุนแรงขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่าน เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ จุดชนวนให้เกิดการตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟันจากรัฐบาลกรุงปักกิ่ง
ทั้ง 2 ฝ่ายตอบโต้กันเรื่องภาษีอีกครั้งในวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของอีกฝ่ายหนึ่งเพิ่มอีก 16,000 ล้านดอลลาร์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กันยายน ทรัมป์ขู่ที่จะขึ้นภาษีสินค้าจีนทั้งหมดที่นำเข้ามาในสหรัฐ คิดเป็นมูลค่าราว 200,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนก็ประกาศที่จะตอบโต้ในแบบเดียวกัน
โดยรวมแล้ว การขึ้นภาษีของสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อสินค้าจีนคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ แต่ในฝั่งจีนนั้น ยังไม่สามารถตอบโต้ได้ในปริมาณที่เท่ากัน เพราะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐน้อยกว่า ไม่ถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปี