COVID-19

อย่าโกหก! ‘หมอธีระ’ เตือน ‘ยิ่งปกปิด ยิ่งอันตราย’

“หมอธีระ” ออกโรงเตือน อย่าปกปิดข้อมูล ชี้ การปล่อยให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ต่อไป ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ ย้ำ สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ปลอดภัย และมีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ภายในประเทศได้ทุกเมื่อ

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดติดเชื้อวันนี้ 20 ส.ค.  โดยระบุว่า

สถานการณ์ทั่วโลก 20 สิงหาคม 2563

ติดเพิ่มอีกถึง 270,216 คน ตายเพิ่มอีก 6,675 คน ยอดติดเชื้อรวม 22,522,953 คน

อเมริกา ติดเพิ่ม 43,828 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1,308 คน ยอดรวม 5,693,142 คน

บราซิล ติดเพิ่ม 49,298 คน รวม 3,456,652 คน

อินเดีย ติดเพิ่มสูง 69,196 คน รวม 2,835,822 คน

รัสเซีย ติดเพิ่ม 4,828 คน รวม 937,321 คน

แอฟริกาใต้ เม็กซิโก เปรู ติดกันเพิ่มราวสี่ถึงแปดพันคน ยอดรวมห้าแสนกว่า

สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส อิหร่าน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ติดเชื้อกันหลักพันถึงหลายพันเช่นเดิม

หมอธีระ ๒๐๐๘๒๐

หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน ออสเตรเลีย ติดกันหลายร้อย ที่น่าเป็นห่วงมากคือ เกาหลีใต้ ตอนนี้ขึ้นมาเกือบสามร้อยต่อวัน คุมยากในระลอกใหม่นี้เพราะแพร่วงกว้างและติดตามคนสัมผัสไม่ได้ครบถ้วน

ส่วนจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ติดกันหลักสิบไปจนเกือบร้อย

ในขณะที่เวียดนาม และนิวซีแลนด์ ยังคงเจอเคสใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่ต่ำกว่าสิบ

…หนึ่งในศีลห้าที่เราจำกันได้ดีคือ การไม่พูดปด…

ยิ่งหากการพูดปด แล้วทำให้คนรู้ผิด เข้าใจผิด ประพฤติตัวผิดจากที่ควรจะทำ จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบวงกว้างในสังคม…ดูตามเนื้อผ้า คงเป็นบาปหนัก…

เดี๋ยวนี้โลกเปลี่ยนไป ทุนนิยมทำให้เกิดกระแสการบูชาคลั่งไคล้ยศ ตำแหน่ง ทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียง จนทำให้เกิดข่าวลวงหรือ fake news มากมาย

ที่สำคัญคือ ข่าวลวงนั้นมาได้หลายรูปแบบจนตามจับกันไม่ทัน และมาได้จากหลากหลายแหล่ง

ดังนั้น ผู้รับข้อมูลทุกคนจึงควรมีสติ และใช้ปัญญาในการกลั่นกรองเสมอ

จะอ่าน จะรับฟัง จะรับชม…ขอให้คิดตาม และลองทำความเข้าใจด้วย”หลักเหตุและผล”

ข่าวลวงปัจจุบันมาได้จากทั้งผู้รู้ และผู้ไม่รู้ รวมถึงผู้ที่คิดว่ารู้แต่จริงๆ ไม่รู้

และอาจมีศิลปะในการตลาดการ สื่อสารที่สร้างถ้อยคำสวยหรูดูดี ทำให้เป็นที่นิยม กลายเป็นวาทกรรมที่ติดหู ติดตา ติดใจ ฉายทุกวันซ้ำๆ ให้คนคุ้นเคยและหลงเชื่อ

“ไม่ปกปิด” มีความหมายที่ลึกซึ้งกินใจ

GettyImages 1201285261

นัยหนึ่งคงแปลว่า”เปิดเผยให้ทุกคนรู้แจ้งในสิ่งที่สำแดง” ซึ่งหากปฏิบัติอย่างเป็นกิจวัตร และเป็นไปในทางที่ดี ที่เป็นประโยชน์ ก็จะเกิดคุณอันมหาศาลต่อคนอื่นๆ ในภารกิจงานการที่เกี่ยวข้อง

แต่อีกนัยหนึ่ง…ที่เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่สามเดือนแรกของการศึกคือ “เปิดเผยให้ทุกคนรู้แจ้งในสิ่งที่…ต้องการ…จะสำแดง”

และ”สิ่งที่ต้องการจะสำแดง”นั้น ประกอบด้วย

หนึ่ง ส่วนที่ไม่สำคัญ

สอง ส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง

สาม การแปลความให้เบี่ยงเบน

สามสิ่งนี้เป็นอันตราย…และยิ่ง”ไม่ปกปิด’ ยิ่งอันตรายยิ่งนัก

และหากเป็นเรื่องที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับชีวิตคนทุกคนในสังคม การปล่อยให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ต่อไป ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ

สถานการณ์ปัจจุบัน…ผมขอเรียนว่า ไม่ปลอดภัย และมีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ภายในประเทศได้ทุกเมื่อ

ขอให้เราทุกคนรักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวอยู่เสมอ

…ใส่หน้ากาก…ล้างมือ…อยู่ห่างๆ คนอื่น

…พูดน้อยลง…พบปะคนน้อยลงสั้นลง

…เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร…

…สำคัญที่สุดคือ สังเกตอาการตนเอง และครอบครัว หากไม่สบายมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ๋ ขอให้หยุดงานหยุดเรียน และไปตรวจ…

GettyImages 1211268635

เคสที่สอง ที่หน่วยงานxxxxxxxx “แถ…ลง”ไปนั้น มีโอกาสสูง เพราะระยะเวลา 6 สัปดาห์หลังจากกักตัวครบ 14 วันนั้น ยาวเพียงพอที่จะเกิดการติดเชื้อจากแหล่งชุมชนได้ จำเป็นอย่างยิ่ง ที่พื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ควรแจ้งเตือนให้คนในพื้นที่ คอยสังเกตอาการตนเอง และรีบไปตรวจหากสงสัย รวมถึงการปฏิบัติตัวป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด

ไม่ใช่มาโอ้อวดสรรพคุณว่ากรูเอาอยู่ ขอให้เชื่อมั่น

บอกตรงๆ…ผมเชื่อมั่นในคนทำงานหน้างานทุกคน ยกเว้นเหล่านักบริหารที่เห็นกันในจอครับ ระลอกแรกมาจากอะไร…รู้กันดีอยู่แก่ใจ

ระลอกสอง…ไม่ยอมเด็ดขาดครับ!!!

ประเทศไทยต้องทำได้

ด้วยรักต่อทุกคน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo