Politics

รัฐบาลหนุนท้องถิ่นเปิดบ้านเช่ารับท่องเที่ยว-เพิ่มรายได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ว่า ทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล เน้นการกระจายลงไปยังท้องถิ่น เพื่อช่วยกระจายรายได้ สร้างงานให้ประชาชน ในลักษณะท่องเที่ยวชุมชน

jjdickdfbf9a6eh7iebia
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นอกจากจะช่วยให้เศรษฐกิจระดับฐานรากตื่นตัว ช่วยแก้ปัญหาความยากจนแล้ว ยังช่วยสร้างความเข้มแข็งในชุมชนได้อีกด้วย โดยตั้งเป้าว่าประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว ในภาพรวมของประเทศในปีหน้า 2562 ประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท ซึ่งรัฐบาลนี้ก็ได้ดำเนินการปรับปรุงในเรื่องที่จำเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านการคมนาคมและดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวก สามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างเพียงพอ

เรื่องของโรงแรม ที่พัก ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ รัฐบาลจะต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมากเนื่องจากยังคงมีข้อจำกัดด้านกฎหมาย ที่อาจจะไม่ส่งเสริม ไม่สอดรับกับรสนิยมการท่องเที่ยวในปัจจุบัน ซึ่งต้องการเข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติ วิถีชุมชนโดยตรงด้วยตัวเอง เช่น นอนในหมู่บ้านชาวประมง ป่าโกงกาง ที่ตื่นขึ้นมาก็ได้สัมผัสกลิ่นไอป่าชายเลนยามเช้า ล่องเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำเป็นต้น รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีที่สำคัญ ๆ ตามปฏิทินการท่องเที่ยว และตามฤดูกาล เช่น การเก็บกินผลไม้จากต้นในสวน ที่ก็ต้องเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ด้วย

ดังนั้น โรงแรมใหญ่ ๆ อาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวแนวนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยในปัจจุบัน กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมมือกับแอร์ บีแอนด์บี แพลตฟอร์มให้เช่าที่พักระดับโลกเพื่อจะเพิ่มมูลค่า และเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยว ให้กระจายในเมืองท่องเที่ยวรองและชุมชนพื้นบ้าน โดยสนับสนุนให้คนไทยที่เป็นเจ้าบ้าน เปิดห้องพักในบ้านของตนให้เช่าชั่วคราวระยะสั้น ๆ

บ้านที่เข้าร่วมโครงการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพียงแต่เป็นบ้านพักอาศัยในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สมัครใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จากนั้น อปท. จะตรวจสอบสภาพบ้านให้มีความสะอาด ปลอดภัย มีอาหารการกินที่ดี มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เพื่อยกระดับชาวบ้านให้เป็นผู้ประกอบการ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้

ส่วนข้อกังวลที่เกี่ยวกับกฎหมายโรงแรมและที่พัก กรมการปกครองก็ได้ชี้แจงว่า กรณีที่มีห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง มีแขกเข้าพักไม่เกิน 20 คน ไม่เข้าข่ายธุรกิจโรงแรม สามารถเปิดบริการเป็นที่พักได้ เพียงแต่เจ้าของบ้านต้องจดแจ้งกับอำเภอ เพื่อให้บริการที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมได้

เจ้าหน้าที่จะต้องไปตรวจสอบว่าบ้านพัก สามารถเข้าโครงการได้หรือไม่ หรือมีคำแนะนำอย่างไร ที่สำคัญโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อชาวชุมชนในทุกท้องถิ่นทั่วไทย ซึ่งผ่านการพิจารณาของ อปท. ให้เข้าร่วมแล้วเท่านั้น โดยเชื่อมโยงเจ้าบ้าน และผู้เข้าพัก แขก นักท่องเที่ยว บนแพลตฟอร์มแอร์บีแอนด์บี

ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมฯ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ กล่าวคือให้อาคารที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้มีลักษณะ หรือมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก็มีอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก สามารถจะขออนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคารเพื่อประกอบธุรกิจโรงแรมได้

นอกจากนี้ ยังผ่อนปรนข้อกำหนดบางประการของอาคารที่สูงน้อยกว่า 4 ชั้นอีกด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าในกรณีที่หากจะมีการดัดแปลงอาคาร ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี เป็นระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่าน ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลบังคับใช้

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้น เพราะต้องการให้ประชาชนที่ประกอบการในเรื่องเหล่านี้ ได้รับผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม เข้าถึงโอกาสทุกโอกาส เพื่อจะแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโรงแรมในภาพรวมของประเทศ ให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศในการกระจายรายได้ให้สู่ประชาชนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง  และมีธุรกิจเชื่อมโยงอีกหลายอย่างด้วยกัน อาทิ บางครอบครัวสามารถนำค่าที่พัก รายวัน รายสัปดาห์ มาจุนเจือค่าผ่อนส่งบ้าน ที่เป็นภาระยาวนานของครัวเรือนไทย ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งด้วยตัวเอง

แนวทางนี้ จะช่วยให้บ้านที่เป็นต้นทุนในอนาคตของทุก ๆ คน สามารถนำมาหารายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม และ ส่งเสริมให้คนไทยมีทักษะผู้ประกอบการ เกิดการเชื่อมโยงเป็นห่วงโซ่ทางธุรกิจที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight