Politics

‘ปิยบุตร’ ยิงตรงถึง ‘อนุรักษ์นิยม-รอยัลลิสต์’ กำจัดคนเห็นต่างแก้ปัญหาไม่ได้

“ปิยบุตร” ยิงข้อความตรงถึง “อนุรักษ์นิยมและรอยัลลิสต์” กำจัดคนเห็นต่างแก้ปัญหาไม่ได้ “รักชาติ” ที่ถูกคือ แสวงหาคำตอบไปด้วยกัน สร้างประชาธิปไตยอันมีกษัตริย์เป็นประมุข

วานนี้ (18 ส.ค. 63) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ในหัวข้อ “จาก #ปิยบุตร ถึงอนุรักษ์นิยมและรอยัลลิสต์” มีเนื้อหาดังนี้

ปิยบุตร
แฟ้มภาพ

“การปราบให้หมด กำจัดให้หมด ไม่มีทางจัดการปัญหาได้ ทำได้แต่เพียงให้คนเห็นต่างหายไปจากประเทศช่วงหนึ่ง แต่ความคิดยังอยู่ และท้ายที่สุดก็เหมือนเข็มนาฬิกาที่ตั้งแล้วก็วนกลับมาที่เดิม ซึ่งไม่เป็นคุณต่อใครทั้งหมดทั้งสิ้น เป็นการฆ่าอนาคตของชาติ

ผมเห็นว่าทางเลือกที่ถูกต้องคือทางเลือกที่สอง ประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องเป็นเรื่องที่อภิปรายได้เหมือนประเด็นอื่นๆ เช่น ประเด็นการปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การกระจายอำนาจ ไม่ใช่เรื่องต้องห้าม สามารถอภิปรายได้ด้วยความปรารถนาดี ด้วยความรัก เคารพ จริงใจ ต่อกันและกัน อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยเพื่อแสวงหาทางออกร่วมกัน ทั้งหมดนี้เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เคียงคู่กับระบอบประชาธิปไตย

บรรยากาศการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาเปลี่ยนไปเร็วมาก ผมใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยตั้งแต่สมัยเรียนจนมาเป็นอาจารย์ เป็นเวลา 21 ปี ก็รู้จักมักคุ้นกับความคิดของนิสิตนักศึกษามาตลอด

วัยนี้เป็นช่วงวัยของความเร้าร้อน เป็นช่วงวัยของความขบถ ไม่ยอมรับ อยากเปลี่ยน อยากจะให้ผู้ที่อาวุโสกว่า ผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน ผู้ที่อายุมากกว่า พยายามทำความเข้าใจเขา พยายามแบ่งแยกท่าทีกับเนื้อหาออกจากกัน พยายามทำความเข้าใจพวกเขาว่าเขาต้องการนำเสนออะไร

ที่สำคัญที่สุดสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่วันนี้ คนรุ่นผม คนรุ่นก่อนผม พวกเราต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะนิสิตนักศึกษาเยาวชนเขาไม่ได้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่กำเนิด แต่เขาเป็นผลพวงของระบอบและสังคมที่พวกเราสร้างขึ้นมาส่งมอบให้กับเขา แต่เขาไม่ต้องการสังคมแบบนี้ เหลืออยู่ทางเดียวก็คือ “เราต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน” มิใช่ “รับผิดชอบร่วมกันโดยการปราบให้หมด”

GettyImages 1228093283

ผมขออนุญาตสื่อโดยตรงไปทางฝ่ายอนุรักษ์นิยม ฝ่ายชนชั้นนำจารีตประเพณี ฝ่ายรอยัลลิสต์ ฝ่ายกษัตริย์นิยม ที่มีเหตุมีผล ไม่ได้บ้าคลั่ง พวกเราต้องช่วยกัน ผมเชื่อว่ายังมีอีกมาก ช่วยออกมาส่งเสียง เพราะถ้าท่านไม่ออกมาส่งเสียงใดๆ เลย จะกลายเป็นว่าฝ่ายคลั่ง ฝ่ายกระหายเลือด พวก Ultraroyalist จะเข้ามาหยิบยกพัฒนาประเด็นผลักจนเกิดเป็นความขัดแย้งของคนในชาติ กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างรุ่น

สุดท้ายผมคิดว่าฝ่ายที่ตำหนิผมทุกครั้งไป ตำหนิวิธีคิดของผมว่า #ชังชาติ ไล่ผมไปอยู่ประเทศต่างๆ บ้าง ผมเรียนตรงนี้ว่า ถ้าผมไม่รักชาติบ้านเมือง ผมไม่มาอยู่จุดๆ นี้หรอก

ถ้าผมคิดถึงตัวผมเองเป็นหลัก ผมไม่ทำตรงนี้หรอก แต่ด้วยความรักชาติบ้านเมือง เราจึงต้องแสดงออกและมารับหน้าที่แบบนี้ รับหน้าที่ในการสื่อสารแบบตรงไปตรงมา

ผมเชื่อว่าทุกคนรักชาติ ท่านก็รักชาติ ผมก็รักชาติ คนไทยทุกคนรักชาติ ไม่มีใครรักมากไปกว่ากัน น้อยไปกว่ากัน แต่เราอาจจะรัก ‘ชาติ’ ไม่ตรงกัน แสดงออกไม่ตรงกัน แบบนี้มาพูดคุยกันได้ แต่ถ้าพวกท่านเริ่มต้นด้วยการประณามหยามเหยียดว่าพวกเราเป็นพวกชังชาติ ก็ไม่มีทางที่จะเริ่มต้นคุยกันได้เลย

การรักชาติที่ถูกต้อง คือ การแสวงหาคำตอบไปด้วยกัน ทั้งหมดนี้คือการร่วมสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นระบอบที่ประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุด เป็นระบอบที่องค์กรผู้ใช้อำนาจรัฐต้องถูกตรวจสอบได้ เป็นระบอบที่พระมหากษัตริย์เป็นประมุข พระมหากษัตริย์ดำรงตำแหน่งสืบทอดทางสายโลหิต และดำรงอยู่อย่างมั่นคงสถาพร ดำรงอยู่อย่างมีพระเกียรติยศเคียงคู่ประชาธิปไตย และเป็นมิ่งขวัญของอาณาราษฎร

มาร่วมกันสร้าง #ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยกัน

ส่วนหนึ่งจากการบรรยายพิเศษ “ว่าด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” เมื่อ 16 สิงหาคม 2563” นาย ปิยบุตร โพสต์

ปิยบุตร ปฏิวัติ
แฟ้มภาพ

ประวัติ “ปิยบุตร แสงกนกกุล”

นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2522 ชื่อเล่น “ป๊อก” เป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คน เกิดในครอบครัวคนชั้นกลางเชื้อสายจีน

จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ แล้วเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 ก่อนจะได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลฝรั่งเศสให้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอก โดยจบปริญญาโท DEA (Master 2) สาขากฎหมายมหาชนและกฎหมายสิ่งแวดล้อม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย Nantes ประเทศฝรั่งเศส

นายปิยบุตร ตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ลาออกจากการเป็นอาจารย์ประจำ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยตำแหน่งสุดท้ายคือ รองศาสตราจารย์ ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน หลังรับราชการมาแล้วมากกว่า 16 ปี เพื่อก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ รวมกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และผู้จดจัดตั้งพรรคอีก 24 ท่าน โดยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ จากที่ประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2561

หลังจากการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เขาได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่

นายปิยบุตร เคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และเป็นกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารจำนวน 16 คน เป็นเวลา 10 ปี ทำให้ปิยบุตรพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี

หลังจากนั้นในวันที่ 21 มีนาคม 2563  นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และปิยบุตร ได้ร่วมกันก่อตั้ง “คณะก้าวหน้า” เพื่อสานต่อภารกิจของอนาคตใหม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo