World News

2 ยักษ์จับมือ! ‘Trip.com’ ผนึกกำลัง ‘JD.com’ รุกตลาดท่องเที่ยว

ยักษ์เมืองจีน! “Trip.com-JD.com” จับมือเชิงกลยุทธ์ ผนึกกำลังรุกตลาดท่องเที่ยวและอีคอมเมิร์ซ คว้าโอกาสการฟื้นตัวจากโควิด-19 

เมื่อวันอาทิตย์ (16 ส.ค.) ที่ผ่านมา ทริปด็อตคอม กรุ๊ป (Trip.com Group) บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ เจดีด็อตคอม (JD.com) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีคอมเมิร์ซของจีน เพื่อขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและอีคอมเมิร์ซ

jd.com trip.com

ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายมีวิสัยทัศน์ความร่วมมือที่สำคัญ 5 ประการ ได้แก่

  • การเข้าถึงผู้ใช้ที่หลากหลายขึ้น
  • การใช้ช่องทางและทรัพยากรร่วมกัน
  • การทำธุรกรรมในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์
  • การตลาดข้ามอุตสาหกรรม
  • การขยายความร่วมมือในตลาดการเดินทางเพื่อธุรกิจ

 

คาดอีก 8 เดือนได้ฤกษ์เปิดตัวผลิตภัณฑ์

ซุนโป ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Trip.com กล่าวผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ว่า บริษัทไม่เพียงแต่จะจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยวที่สามารถแข่งขันกับเจ้าอื่นได้ให้แก่ JD.com เท่านั้น แต่ยังจะขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายมากขึ้นให้กับผู้ใช้งาน Trip.comมีจำนวนมากกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ผ่านการสนับสนุนของJD.com อีกด้วย

Trip.comให้คำมั่นว่าจะจัดหารายการสินค้าด้านการท่องเที่ยวแบบเรียลไทม์ ในราคาที่สามารถแข่งขันกับเจ้าอื่นๆ ได้ให้แก่JD.com โดยผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวเหล่านี้ คาดว่าจะเปิดตัวบน JD.com ภายในเวลา 8 เดือน

GettyImages 1010094414

วิฤตการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด 19) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ส่งผลให้แผนการเดินทางจำนวนหลายสิบล้านเที่ยวที่จองไว้บน Trip.com ถูกยกเลิกหรือเปลี่ยนเวลาเดินทางใหม่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.1 หมื่นล้านหยวน หรือราว 1.39 แสนล้านบาท

ปัจจุบัน การท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนเริ่มฟื้นตัว Trip.comกล่าวว่า บริษัทจะเปิดร้านสาขาแฟลกชิปสโตร์ (Flagship Store) บน JD.com เพื่อคว้าโอกาสในช่วงเวลาสำคัญแห่งการฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยว

ทั้ง 2 แพลตฟอร์มต่างมีผู้ใช้งานมากกว่า 400 ล้านคน Trip.com ยังคงดำรงบทบาทในฐานะผู้นำตลาดการเดินทางเพื่อธุรกิจของจีน ในขณะที่ JD.com มีลูกค้าองค์กรจำนวน 8 ล้านราย และมีผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกอีกนับหมื่นราย

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 Trip.comได้จัดโปรแกรมไลฟ์สตรีมมิ่งกว่า 40 รายการ ทำรายได้จากคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สำการท่องเที่ยวไปกว่า 1.1 พันล้านหยวน หรือราว 4.94 พันล้านบาท และทางฝั่งของ JD.comได้เพิ่มการลงทุนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซด้านการไลฟ์สตรีมมิ่งวิดีโอสั้น

jd.com

JD.com ประกาศโกยรายได้เพิ่ม 34%

ด้าน JD.com ยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีกออนไลน์ของจีน เพิ่งประกาศรายได้สุทธิสูงถึง 2.01 แสนล้านหยวน หรือราว 9 แสนล้านบาท ในไตรมาส 2 ของปี 2563 เพิ่มขึ้น 33.8% เมื่อเทียบปีต่อปี

บริษัททำกำไรสุทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 1.64 หมื่นล้านหยวน หรือราว 7.3 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับ 600 ล้านหยวน หรือราว 2.6 พันล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมประกาศผ่านรายงานการเงินว่า บริษัทมีผู้ซื้อรวม 417.4 ล้านราย ในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 29.9% เมื่อเทียบปีต่อปี

“นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 JD.com ได้ใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านห่วงโซ่อุปทานและเทคโนโลยีที่โดดเด่น เพื่อช่วยเหลือสังคมและสร้างความมั่นใจในการจัดหาและส่งมอบของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างงานในระบบนิเวศและสนับสนุนพันธมิตรทางธุรกิจท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง” ริชาร์ด หลิว ประธานกรรมการบริหาร JD.com กล่าว

“ผลการดำเนินงานและสภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งของเราเป็นพื้นฐานสำหรับการลงทุนของ JD.com ในด้านนวัตกรรมห่วงโซ่อุปทานและประสบการณ์การดูแลลูกค้าที่เหนือชั้น เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวของบริษัทฯ” แซนดี้ สวี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกล่าว

รถไฟ จีน

เซินเจิ้น” ฐานใหญ่เทคโนโลยี ประกาศ 5G ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง

ด้าน เฉินหรูกุ้ย นายกเทศมนตรีนครเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน ประกาศว่าเซินเจิ้นมีเครือข่ายสัญญาณ 5G ครอบคลุมทั่วทั้งเมืองแล้ว

เฉินแถลงข่าวว่า เซินเจิ้นบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2562 ซึ่งกำหนดให้ก่อสร้างสถานีฐาน 5G รวม 45,000 แห่ง ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2563 เพื่อสนับสนุนการก่อตั้งเครือข่าย 5G ทั่วเมือง

เจี่ยซิงตง ผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศนครเซินเจิ้น ระบุว่าเซินเจิ้นมีสถานีฐาน 5G เกิน 46,000 แห่งแล้ว ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการที่วางไว้

เซินเจิ้น ศูนย์กลางทางเทคโนโลยีในมณฑลกว่างตง เป็นที่ตั้งของสตาร์ตอัปและบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่ง รวมถึงหัวเหวยและเทนเซ็นต์ โดยจีดีพีของเซินเจิ้นเพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่มากกว่า 2.69 ล้านล้านหยวน หรือ ราว 12.1 ล้านล้านบาท ในปี 2562

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo