Properties

รถไฟฟ้า 10 สายเปิดหน้าดิน ‘ปรีดาโฮลดิ้ง’ ต่อยอดอสังหาฯ

S 56606742
นายปิติพัฒน์ ปรีดานนท์

โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สายของรัฐบาล นอกจากนำความเจริญมาสู่พื้นที่แล้ว ยังเป็นการเปิดหน้าดินเปิดทำเลใหม่ให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย ทำให้สามารถหาช่องว่างทำเล เพื่อพัฒนาโครงการได้มากขึ้น

เช่นเดียวกับ บริษัท ปรีดาโฮลดิ้ง จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายย่อย ที่ดำเนินธุรกิจมานับ 10 ปี จากรุ่นพ่อตกทอดมาถึงรุ่นที่สอง มองเป็นโอกาสลงทุนที่เปิดกว้าง เมื่อมีเส้นทางรถไฟฟ้า 10 สายทั่วกรุงเทพฯ มาเชื่อมโยงการเดินทางข้ามพื้นที่ ทำให้เกิดทำเลการพัฒนาใหม่ๆ ขึ้นมา

นายปิติพัฒน์ ปรีดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปรีดาโฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า รถไฟฟ้า คือระบบคมนาคมขนส่งที่เป็นแมส สามารถขนส่งคนให้เดินทางได้สะดวกขึ้น และเส้นทางรถไฟฟ้าที่ก่อสร้างใหม่ ที่ประกาศตัวและเริ่มลงมือพัฒนาแล้วเหล่านี้ ล้วนเป็นตัวเร่งสำคัญ นำการพัฒนาเข้าสู่พื้นที่นั้นๆ

ที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว 5 โครงการ ส่วนใหญ่ก็มองทำเลเชื่อมโยงรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ โดยโครงการที่บริษัทลงทุนใช้ชื่อว่า กรีเน่ (Grene Condo) มี 3 ทำเล คือ สุทธิสาร แจ้งวัฒนะ และดอนเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาเฟส 1

thumbnail 40 GND Phase1 Court1 Web re
โครงการกรีเน่ ดอนเมือง

โครงการกรีเน่ ดอนเมือง เป็นการพัฒนาอาคารชุดแนวราบ 8 ช้น 8 อาคาร จำนวน 1,400 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,500 ล้านบาท เปิดขายในราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท สำหรับห้องชุดขนาด 22 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาเฟสแรก จำนวน 3 อาคาร รวม 570 ยูนิต

นอกจากนี้บริษัทยังมีแลนด์แบงก์อีกหลายแปลง ซึ่งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ ที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งเท่าที่บริษัทได้ติดตามพบว่า รถไฟฟ้าแต่ละสายจะทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป เมื่อถึงช่วงนั้นราคาที่ดินในทำเลต่างๆ ก็จะปรับตัวสูงขึ้น และจะเป็นโอกาสเหมาะในการพัฒนาโครงการ

pic1149img0

“รถไฟฟ้าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคา ใครจะคิดว่าคอนโดแถวซอยลาซาล สมุทรปราการ จะขายได้ตารางเมตรละ 1 แสนบาท เป็นเพราะรถไฟฟ้าทำให้ราคาสูงเกินคาด” นายปิติพัฒน์ กล่าว และว่า เช่นเดียวกับอีกหลายทำเล เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จเปิดเดินรถ เชื่อว่าจะทำให้ทั้งราคาที่ดิน และราคาอสังหาฯ ในทำเลนั้นๆ ปรับราคาขึ้น เมื่อถึงช่วงนั้น ก็เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน โดยจะเลือกพื้นที่ลงทุนในรัศมีไม่เกิน 300 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้า

รายย่อยเจาะทำเลเฉพาะราคาต่ำ 15-20%

นอกจากแผนพัฒนาตามเมกะโปรเจคต่างๆ แล้ว นายปิติพัฒdน์ กล่าวว่าผู้ประกอบการอสังหารายย่อยยังได้เปรียบ บริษัทขนาดใหญ่ในแง่ความคล่องตัวของการดำเนินงาน และยิ่งเป็นรายย่อยที่ฐานธุรกิจด้านก่อสร้างด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การบริหารต้นทุนทำได้ดี สามารถคุมต้นทุนและพัฒนาสินค้าออกมาขาย โดยกำหนดราคาต่ำกว่ารายใหญ่ได้ 15-20% ในคุณภาพและทำเลใกล้เคียงกัน

การเปิดพื้นที่ทำเลใหม่ตามเส้นทางรถไฟฟ้า จะยิ่งทำให้ข้อได้เปรียบของรายย่อยในประเด็นเหล่านี้เกื้อหนุนกัน ทำให้มีโครงการอสังหาฯออกมาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น  ซึ่งเชื่อว่าหลังจากรถไฟฟ้าคืบหน้าด้านการก่อสร้างไปสักระยะ จะได้เห็นโครงการอสังหาของรายย่อย เปิดเข้ามาในตลาดมากขึ้น เป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า

ถือแลนด์แบงก์ 500 ไร่ชลบุรีรออีอีซี

นอกจากที่ดินในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่รอจังหวะการปรับตัวขึ้น ตามความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าแล้ว ทางปรีดาโฮลดิ้ง ยังมีที่ดินในจังหวัดชลบุรี อีก 500 ไร่ ที่ อำเภอพานทอง ซึ่งรอแผนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่าจะทำให้พื้นที่คึกคักและแนวโน้มการพัฒนาไปในรูปแบบใด อาจเป็นแผนงานในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มปรีดาเคยพัฒนาโครงการแนวราบ เป็นบ้านจัดสรรที่จังหวดชลบุรี ชื่อโครงการ หมู่บ้านศรีสุวรรณ เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 105 ยูนิต ขายในราคา 3 ล้านบาทเศษ ซึ่งพัฒนามาก่อนหน้านี้ เป็นอีกโครงการที่ทางกลุ่มดำเนินการ

นายปิติพัฒน์ กล่าวว่าสำหรับปรีดาโฮลดิ้ง เริ่มต้นธุรกิจมาจากรับเหมาก่อสร้าง โดยทำมา 44 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2517 ปัจจุบันก็ยังคงรับเหมาก่อสร้าง โครงการต่างๆ ของปรีดาฯ อย่างต่อเนื่องหลังจากบริษัท ปรีดาเรียลเอสเตทเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2533

gdp48

มองปัจจัยบวกหนุนอสังหาฯโตต่อเนื่อง

ผู้บริหารปรีดาโฮลดิ้ง กล่าวด้วยว่านอกจากปัจจัยเมกะโปรเจคของรัฐ ทั้งโครงการรถไฟฟ้า 10 สาย และแผนพัฒนาอีอีซี ที่จะเป็นตั้วเกื้อหนุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว ยังมีปัจจัยบวกอีกหลายตัวที่คาดว่าจะส่งเสริมให้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เติบโตได้

เริ่มตั้งแต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ จีดีพีประเทศ ที่คาดว่าจะเติบโต 4.5-4.7%  ตัวนี้จะช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น ต่อมาหนี้ครัวเรือนที่เคยมีอัตราสูง เริ่มปรับตัวลดลง ก็เป็นปัจจัยบวกอีกประการ สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์

อัตราดอกเบี้ยแม้จะอยู่ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น แต่มั่นใจว่าภายใน 1-2 ปีนี้ดอกเบี้ยจะยังคงที่อัตราต่ำอยู่ จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ก็เติบโตทะลุ 1,700 จุด ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน หลายปัจจัยบวกเหล่านี้ ล้วนเป็นตัวเกื้อหนุนให้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

 

Avatar photo