World News

‘WHO’ ติดต่อ ‘รัสเซีย’ ใกล้ชิด หาโอกาสตรวจสอบ ‘วัคซีนโควิด-19’ ตัวแรกของโลก

“WHO” เผยติดต่อ “รัสเซีย” ใกล้ชิด หวังหาโอกาสตรวจสอบ วัคซีนโควิด-19 หลัง “ปูติน” ประกาศความสำเร็จขึ้นทะเบียนเป็นครั้งแรกของโลก

โฆษกของ องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า องค์การติดต่อใกล้ชิดกับรัสเซีย เกี่ยวกับการตรวจคุณสมบัติเบื้องต้นของวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ตัวแรกของโลก

“เราติดต่อกับหน่วยงานสาธารณสุขของรัสเซียอย่างใกล้ชิดและอยู่ในระหว่างการหารือถึงโอกาสที่องค์การจะตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของวัคซีน” ทาริก จาซาเรวิก โฆษกขององค์การกล่าวระหว่างการรายงานข่าวในรูปแบบเสมือนจริง

วัคซีนโควิด รัสเซีย

จาซาเรวิกกล่าวว่า “ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของวัคซีน คือการตรวจสอบและประเมินข้อมูลทั้งหมดที่ต้องมีอย่างเข้มงวดในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ” ในการทดลองทางคลินิก พร้อมเสริมว่าองค์การจะใช้กระบวนการเดียวกันนี้ตรวจสอบวัคซีนทุกตัว

“ทุกประเทศมีหน่วยงานควบคุมดูแลผู้มีหน้าที่รับรองการใช้วัคซีนหรือยาภายในดินแดนของตน” จาซาเรวิกกล่าว “บรรดาผู้ผลิตเรียกร้องให้องค์การตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของวัคซีน เพราะกระบวนการนี้เป็นหนึ่งในเครื่องยืนยันคุณภาพของวัคซีน”

 

รัสเซีย ขึ้นทะเบียน “วัคซีนโควิด-19” ที่แรกของโลก 

วานนี้ (11 ส.ค. 63) วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียได้ขึ้นทะเบียน วัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวแรกของโลก

“เท่าที่ผมทราบ เช้านี้ได้มีการลงทะเบียน วัคซีนโควิด-19 เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก” ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมออนไลน์กับคณะรัฐบาล รัสเซีย

วัคซีนดังกล่าว พัฒนาขึ้นโดยสถาบันกามาเลยา ในกรุงมอสโก และได้รับการตั้งชื่อว่า “สปุตนิก 5” (Sputnik V) ซึ่งเป็นชื่อที่อ้างอิงถึง เหตุการณ์เมื่อปี 2500 ที่สหภาพโซเวียตในขณะนั้น สร้างความประหลาดใจให้กับชาวโลก ด้วยการปล่อยดาวเทียมดวงแรกของโลก ขึ้นสู่ท้องฟ้า

มิคาอิล มูราชิโก (Mikhail Murashko) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัสเซียยืนยันในที่ประชุมว่า รัสเซีย ได้ขึ้นทะเบียน วัคซีนโควิด-19 ในรัสเซียเป็นที่แรกของโลก ขณะที่ประเทศอื่นๆ กำลังดำเนินการศึกษาทางคลินิกของวัคซีน

มูราชิโกกล่าวว่า วัคซีนตัวใหม่นี้ได้ผ่านการตรวจสอบที่จำเป็นทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกัน

ปูติน

ปูตินกล่าวว่าเขาหวังว่าการผลิตวัคซีนจำนวนมากที่จดทะเบียนในรัสเซียจะเริ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ และทุกคนในประเทศจะสามารถรับการฉีดวัคซีนได้โดยสมัครใจ

สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ คือ การสร้างความมั่นใจว่าการใช้วัคซีนนี้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดี

ด้านทัตยานา โกลิโควา (Tatyana Golikova) รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียกล่าวในที่ประชุมว่า เธอคาดว่าการผลิตวัคซีนนี้จะเริ่มช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีน

ปูตินยังทิ้งท้ายว่า ลูกสาวคนหนึ่งของเขาได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวและมีอาการดีขึ้นในภายหลัง

 

ชาวโลกยังแคลงใจ?

อย่างไรก็ดี การอ้างชัยชนะในการพัฒนา วัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ในครั้งนี้ของปูติน เกิดขึ้นท่ามกลางข้อสงสัยว่า รัสเซียอาจจะลดขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาวัคซีน

บรรดานักวิจารณ์ชี้ว่า การผลักดันให้เกิดการพัฒนาวัคซีนของรัสเซียนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันของทำเนียบเครมลิน ที่ต้องการกำหนดภาพลักษณ์ของรัสเซีย ในฐานะแรงขับเคลื่อนด้านวิทยาศาสตร์ของโลก

จนถึงขณะนี้ รัสเซียไม่เคยเปิดเผยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ เกี่ยวกับการทดลองวัคซีนออกมาเลย ซึ่ง สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ของสหรัฐ ย้ำด้วยว่า ทางซีเอ็นเอ็น ไม่สามารถยืนยันในคำกล่าวอ้างถึงความปลอดภัย หรือประสิทธิภาพ ของวัคซีนตัวนี้ได้

กระนั้นก็ตาม เจ้าหน้าที่รัสเซีย เปิดเผยต่อซีเอ็นเอ็นว่า มีประเทศต่างๆ อย่างน้อย 120 ชาติ รวมถึง บริษัทสหรัฐจำนวนหนึ่ง ที่แสดงความสนใจในวัคซีนต้านโควิดของรัสเซีย

ทั้งนี้ รัสเซีย เป็นหนึ่งในหลายประเทศที่กำลังเร่งพัฒนาวัคซีน สำหรับต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ปัจจุบันมียอดสะสมผู้ติดเชื้อมากกว่า 20 ล้านคน และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 730,000 รายทั่วโลก

ล่าสุดช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2563 นี้ รัสเซีย ก็เพิ่งปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า สายลับรัสเซีย ได้ลักลอบเจาะข้อมูลห้องทดลองในสหรัฐ แคนาดา และอังกฤษ เพื่อขโมยความลับในการพัฒนาวัคซีน

วัคซีนโควิด-19 รัสเซีย

การประกาศความสำเร็จของรัสเซีย มีขึ้นหลังเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายไมเคิล ไรอัน กรรมการบริหารประจำ โครงการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของ WHO แถลงว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 6 รายการ ซึ่งรวมถึง 3 รายการจากจีน ได้เข้าสู่การทดลองระยะที่ 3 แล้ว

วัคซีนโควิด-19 ของจีนทั้ง 3 รายการมาจาก บริษัท ซิโนวัค ไบโอเทค จำกัด, สถาบันยาชีววัตถุอู่ฮั่น และ สถาบันยาชีววัตถุปักกิ่ง สังกัดบริษัท ไชน่า เนชันแนล ฟาร์มาซูติคอล กรุ๊ป (ซิโนฟาร์ม)

ส่วนวัคซีนอีก 3 รายการมาจาก ความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดกับแอสตราเซเนกา (AstraZeneca), โมเดอร์นา (Moderna)กับสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐ (NIAID) รวมถึงไบโอเอ็นเทค (BioNTech) กับฟู่ซิงฟาร์มา (Fosun Pharma) และไฟเซอร์ (Pfizer)

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo