World News

รัฐบาล ‘เลบานอน’ ลาออกยกคณะ รับผิดชอบเหตุ ‘ระเบิดเบรุต’

รัฐบาล “เลบานอน” ลาออกยกคณะ รับผิดชอบเหตุ “ระเบิด เบรุต” ด้านประธานาธิบดียอมรับปัญหารุมเร้าประเทศเกินแก้ลำพัง วอนนานาชาติช่วยเหลือ

วานนี้ (10 ส.ค. 63) ฮัสซัน ดิอับ นายกรัฐมนตรีเลบานอนประกาศการลาออกของรัฐบาลทั้งคณะ สืบเนื่องจากเหตุระเบิดร้ายแรงในกรุงเบรุต เมืองหลวงของประเทศ ที่จุดกระแสประท้วงต่อต้านรัฐบาล

โดยดิอับกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปเพื่อยืนหยัดเคียงข้างชาวเลบานอนที่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

ประชาชนหลายพันคนออกมาร่วมชุมนุมใจกลางเมืองเบรุต เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบการเมือง หลังจากเกิดเหตุระเบิดใหญ่ 2 ครั้ง ที่ท่าเรือเบรุต เมื่อราว 18.10 น. ของวันอังคาร (4 ส.ค. 63) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 158 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 6,000 ราย

ระเบิด เลบานอน เบรุต

ชาว เลบานอน มองว่า กลุ่มผู้นำทางการเมืองมีความประมาทเลินเล่อและชะล่าใจ กรณีเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรตปริมาณมากไว้ที่ท่าเรือเบรุต ซึ่งอาจเป็นต้นตอของการ ระเบิด ครั้งใหญ่

อย่างไรก็ดี ดิอับปฏิเสธจะรับผิดชอบต่อกรณีทุจริตของรัฐบาลชุดก่อนหน้า ชี้ว่า “หลายสัปดาห์หลังการจัดตั้งรัฐบาลของเรา พรรคการเมืองบางฝ่ายพยายามให้เรารับผิดชอบการทุจริต หนี้สาธารณะ และการล่มสลายทางเศรษฐกิจ” โดยรัฐมนตรีทุกคนในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ล้วนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อมีส่วนร่วมในแผนกลยุทธ์ฟื้นฟูประเทศ

“เราให้ความสำคัญกับเลบานอน อนาคตของประเทศ รวมถึงอนาคตของลูกหลาน เราไม่ได้รับผลประโยชน์ส่วนตัวอันใดทั้งสิ้น เราต้องการให้เลบานอนได้ในสิ่งที่ดีที่สุด เราขอปฏิเสธจะถูกลากเข้าสู่การโต้แย้งที่ไร้ประโยชน์ น่าเสียดายที่เราไม่สามารถหยุดยั้งพรรคการเมืองบางฝ่ายจากการปลุกปั่นให้ผู้คนต่อต้านเราได้” ดิอับกล่าว

ดิอับเสริมว่า พรรคการเมืองบางฝ่ายทุจริตอย่างหนักหน่วงจนเกินกว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศ “ผมค้นพบว่าการคอร์รัปชันนั้นยิ่งใหญ่กว่ารัฐบาล” และการทุจริตก็ฝังรากอยู่ในทุกหน่วยงานของรัฐบาล

ปัจจุบันทางการเลบานอนกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดครั้งใหญ่ โดยมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำท่าเรือเบรุตแล้ว 3 คน และพนักงานท่าเรือ 16 คน เมื่อวันศุกร์ (7 ส.ค. 63) ด้านชาวเลบานอนแสดงคำมั่นว่าจะประท้วงต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะลาออกและมีการจัดเลือกตั้งก่อนกำหนด

เลบานอน ประท้วง
ผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ณ กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน วันที่ 8 ส.ค. 63

ทั้งนี้ ดิอับได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ภายหลังเหตุประท้วงทั่วประเทศที่นำไปสู่การลาออกของรัฐบาลภายใต้การนำของอดีตนายกรัฐมนตรีซาอัด ฮารีรี

ตลอดเวลาที่ดิอับดำรงตำแหน่ง เลบานอนประสบปัญหาขาดแคลนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์เลบานอนอ่อนค่าลง อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง ผสมโรงกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

เหตุระเบิดใหญ่ 2 ครั้ง เกิดขึ้นที่ท่าเรือเบรุต เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ได้ซ้ำเติมปัญหาภายในประเทศ โดยทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่าราว 3-5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.34 หมื่นล้านบาทถึง 1.55 แสนล้านบาท

สาเหตุของการระเบิดยังคงเป็นปริศนา โดยหน่วยงานขที่เกี่ยวข้องกำลังสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง แต่โมฮัมหมัด ฟาห์มี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของเลบานอน ระบุว่า “แอมโมเนียไนเตรต” ที่ถูกเก็บไว้ในท่าเรือเบรุตราว 2,700 ตัน อาจเป็นต้นตอของเหตุระเบิดครั้งนี้

ปัญหารุมเร้า “เลบานอน ” เกินแก้ลำพัง นานาชาติเร่งช่วยเหลือ

ด้านประชาคมระหว่างประเทศแสดงคำมั่นจัดสรรความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม มูลค่ากว่า 252 ล้านยูโร หรือราว 9.23 พันล้านบาทแก่ เลบานอน ซึ่งเผชิญเหตุ ระเบิด ใหญ่ 2 ครั้งในกรุงเบรุต

การประชุมออนไลน์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ส.ค. 63) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สหประชาชาติ และมีเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นเจ้าพร้อม พร้อมผู้แทนจากสหราชอาณาจักร กาตาร์  สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน และธนาคารโลก ได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่แสดงคำมั่นยืนหยัดเคียงข้างและสนับสนุนประชาชนชาวเลบานอน

ระเบิด เลบานอน

“เพื่อช่วย เลบานอน ก้าวข้ามโศกนาฏกรรมและฟื้นตัวดีขึ้น เราต้องการความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย” อมินา โมฮัมเหม็ด รองเลขาธิการสหประชาชาติกล่าวต่อที่ประชุม และเสริมว่าเหตุ ระเบิด ใหญ่ที่ท่าเรือเบรุตจะ “สร้างผลกระทบใหญ่หลวงทางสังคมและเศรษฐกิจ” จึงเรียกร้องการสนับสนุน “4 ส่วนหลัก ได้แก่ สาธารณสุข อาหาร การฟื้นฟูอาคาร และการฟื้นฟูโรงเรียน

ด้านมิเชล อูน ประธานาธิบดีเลบานอน ขอแรงสนับสนุนการก่อสร้างอาคารใหม่อย่างรวดเร็ว โดยอูนชี้ว่า “เป็นความจำเป็นเร่งด่วนก่อนฤดูหนาวจะมาถึง เพราะพลเรือนจะทุกข์ทรมานอย่างมากหากไม่มีสถานที่พักพิงในช่วงอากาศหนาวเย็น”

เลบานอนประสบหายนะขณะเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจและการเงิน นอกจากนั้นยังมีปัญหาผู้ลี้ภัยในประเทศกว่า 1 ล้านคน และผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) การจัดการกับปัญหาทั้งหมดนี้อยู่เหนือความสามารถของเลบานอน” อูนกล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศและองค์กรระหว่างประเทศหลายสิบแห่งร่วมแสดงความเป็นหนึ่งเดียวและความเห็นอกเห็นใจกับเลบานอนด้วยการจัดส่งเวชภัณฑ์และอาหารช่วยเหลือ

โดยช่วงหลายวันที่ผ่านมา เลบานอนได้รับโรงพยาบาลสนามจากหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส จอร์แดน รัสเซีย และกาตาร์ เพื่อรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดและผู้ป่วยโรคโควิด-19

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติมคลิก

Avatar photo