สมาคมค้าทองคำ รายงาน ราคาทองวันนี้ 11 ส.ค. 2563 นับถึงเวลา 09.30 น. ปรับลดลง 200 บาท จากระดับปิดเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) โดยที่ราคาทองคำแท่ง ขายออกล่าสุดอยู่ที่ 29,700 บาท
ราคาทองวันนี้ 11 ส.ค. ทองคำแท่ง 96.5% ขายออกที่บาทละ 29,700.00 บาท และรับซื้อที่ 29,800 บาท ส่วน ทองรูปพรรณ 96.5% ขายออก 30,200.00 บาท รับซื้อที่ 29,258.82 บาท
ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 2,019.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทวิเคราะห์ของ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG Bullion and Futures Co., Ltd.) ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 4.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่า ในระหว่างวัน ราคาทองคำ จะดีดตัวขึ้น ทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 2,049.90 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ จากแรงซื้อทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียด ระหว่างจีน และสหรัฐ บวกรวมกับสกุลเงินดอลลาร์ ลดช่วงบวก ที่ทำในระหว่างวัน
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำ รักษาช่วงบวกไว้ไม่ได้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ ฟื้นตัวขึ้นได้ในที่สุด โดยรวมแล้ว สกุลเงินดอลลาร์ ยังได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง มาจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานที่ดีเกินคาด
นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ ยังได้รับแรงหนุนเพิ่ม จากการเปิดเผยตัวเลข การเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดความต้องการ ในตลาดแรงงาน ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด สู่ระดับ 5.9 ล้านตำแหน่ง ในเดือนมิถุนายน
ประกอบกับ นักลงทุน ยังคงเปิดรับความเสี่ยง สะท้อนจาก ดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดเพิ่มขึ้น 357.96 จุด โดยได้แรงหนุนจากการที่ ทำเนียบขาว แสดงท่าทีพร้อมเจรจากับ แกนนำในสภาคองเกรสอีกครั้ง หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง เกี่ยวกับการออกมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สถานการณ์ดังกล่าว บั่นทอนความต้องการทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำ ไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผย ดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIB และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ
วายแอลจี บูลเลี่ยน ให้คำแนะนำว่า นักลงทุนควรเน้นการซื้อขาย ทำกำไรระยะสั้นในกรอบ หลังจากราคา มีแรงขายทำกำไรออกมาเพิ่ม การเปิดสถานะซื้อ แนะนำรอการอ่อนตัวลง เข้าใกล้แนวรับในโซน 2,014-2,009 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และพิจารณาโซน 2,038-2,055 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อแบ่งปิดสถานะ ซื้อทำกำไร
ขณะที่นักวิเคราะห์ในต่างประเทศ อย่าง นายยุง ยู หม่า หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการลงทุนของ บีเอ็มโอ เวลธ์ แมเนจเมนท์ แสดงความเห็นว่า ขณะนี้มีหลายปัจจัยที่กำลังขับเคลื่อนราคาทองให้ดีดตัวขึ้น แต่ก็มี 2 เหตุการณ์สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาทอง ได้แก่ การพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และการเลือกตั้งในสหรัฐ โดยวัคซีนต้านโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะสกัดปัจจัยบวก ที่กำลังหนุนราคาทองอยู่ในขณะนี้
ทางด้านเธิร์ด บริดจ์ กรุ๊ป บริษัทด้านการวิจัย ระบุว่า ราคาทองอาจดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นต่อไปในปี 2564
ในอดีตนั้น ราคาทองพุ่งขึ้นเกือบ 5% หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถคว้าชัยชนะอย่างเหนือความคาดหมายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2559 ขณะที่ผลสำรวจต่างบ่งชี้ว่านางฮิลลารี คลินตัน จะเป็นผู้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราคาทองพุ่ง! ร้านทองเยาวราชคึกคัก ประชาชนแห่ขายแน่น
- ราคาทองคำพุ่งไม่หยุด! ‘วายแอลจี’ มองเป้าหมายถัดไปที่ 2,100 ดอลลาร์
- ทุบทุกสถิติ! ราคาทองรูปพรรณขายออกทะลุ 3 หมื่นบาทแล้ว
