ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (11 ส.ค.) ปรับตัวสูงขึ้น ตามการปรับตัวสูงขึ้นของวอลล์สตรีท เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ให้ขยายระยะเวลา ในการให้เงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน แต่บรรยากาศในตลาด ยังเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ท่ามกลางความสัมพันธ์ ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างจีน กับสหรัฐ
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 22,691.62 จุด เพิ่มขึ้น 361.68 จุด หรือ 1.62% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงที่ 24,872.66 จุด ปรับขึ้น 495.23 จุด หรือ 2.03% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 3,396.85 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ 0.52% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 2,551.55 จุด บวก 6.04 จุด หรือ 0.24%
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 27,791.44 จุด เพิ่มขึ้น 357.96 จุด หรือ 1.30% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,360.47 จุด เพิ่มขึ้น 9.19 จุด หรือ 0.27% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 10,968.36 จุด ลดลง 42.62 จุด หรือ 0.39%
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ให้ขยายระยะเวลา ในการให้เงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน จนถึงช่วงสิ้นปีนี้ ในอัตรา 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ หลังจากที่โครงการช่วยเหลือดังกล่าวได้หมดอายุลงเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
การเคลื่อนไหวดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ เกิดขึ้นหลังจากที่การเจรจาระหว่างทำเนียบขาว และบรรดาส.ส. เดโมแครต ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เกี่ยวกับมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจรอบใหม่ ยังหาข้อยุติกันไม่ได้
อย่างไรก็ดี นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดกว้างต่อการเจรจาครั้งใหม่กับแกนนำพรรคเดโมแครต เกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
เขาบอกด้วยว่า ทั้ง 2 ฝ่ายอาจบรรลุข้อตกลงกันได้เร็วสุดภายในสัปดาห์นี้ หากฝั่งเดโมแครตมีเหตุผล และว่า รัฐบาลพร้อมที่จะเสนอวงเงินที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ดี ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับสหรัฐ ยังเป็นแรงกดดันตลาดโดยรวมอยู่ หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี แบน 2 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน คือ เทนเซ็นต์ และไบท์แดนซ์ มีผลในอีก 45 วันข้างหน้า ทั้งยังประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีน และฮ่องกง รวม 11 คน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับเทรนด์ ‘M&A โลก’ หลังโควิด เศรษฐกิจซบ โอกาสทองควบรวมกิจการ
- จาก ‘บาซูก้า’ สู่ ‘สมาร์ทบอมบ์’ ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจสำหรับ ‘ศึกโควิด-19’ ที่ยืดเยื้อ
- อนาคตค้าปลีก ลงทุนระบบอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบาย รับยุค ‘เศรษฐกิจอยู่ติดบ้าน’