ม็อบอาชีวะ ศอปส. รวมตัวชุมนุมด้านหน้าอาคารรัฐสภา ยื่นหนังสือถึง “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการต่อกลุ่มนักการเมือง ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมต่างๆ ที่มีการก้าวล่วงต่อสถาบัน
วันนี้ (10 ส.ค.) กลุ่มแนวร่วมปกป้องสถาบัน นำโดย ศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบัน (ศอปส.) นัดรวมตัวเพื่อยื่นเรื่องต่อ รัฐสภา แสดงจุดยืนให้ดำเนินการกลับกลุ่มผู้ชุมนุมบางกลุ่ม และกลุ่มคนที่จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ในโลกออนไลน์ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง ละเลยให้บานปลาย
นายสุเมธ ตระกูลวุ่นหนู หนึ่งในแกนนำ อ่านแถลงการณ์ของทางกลุ่ม ระบุว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องการความรู้รักสามัคคี แต่มีกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวนำสถาบันพระมหากษัตริย์มายุยงให้แตกแยก เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น กลุ่มนักเรียนอาชีวะ และประชาชนที่มีใจรักสถาบัน และแผ่นดินไทย เห็นว่าถึงเวลาที่จะรวมตัวกันประท้วงกลุ่มคนเหล่านั้น ที่ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือทำลายชาติ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
“ศูนย์การประสานงานนักศึกษาอาชีวะประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศอปส. ตั้งขึ้นเพื่อให้สติเยาวชน และพ่อแม่ ให้ตระหนักภัยคุกคามของชาติ โดยกลุ่มจะใช้วิธีการต่อต้าน ด้วยการเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่ชังชาติ และดำเนินการกับกลุ่มที่หมิ่นสถาบันอย่างถึงที่สุด” นายสุเมธ กล่าว
นอกจากนี้ ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ยังได้อ่านข้อเรียกร้องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีมีกลุ่มการเมืองเจตนาไม่ดีต่อสถาบัน อยู่เบื้องหลังการชุมนุม สร้างวาทกรรมแบ่งแยกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และฝ่ายเผด็จการ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และมีความพยายามแยกระบอบประชาธิปไตย ออกจากสถาบัน
ทางกลุ่มจึงเรียกร้องให้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ควบคุมอย่างเคร่งครัด ไม่ให้บุคคลเหล่านี้ ดำเนินการอีก และตรวจสอบจริยธรรม ของนักการเมือง พร้อมลงโทษตามรัฐธรรมนูญ ให้ความรู้ ที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อปกป้อง ไม่ให้เกิดความเสียหาย ต่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ทางด้าน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการ คณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนเข้ารับหนังสือ พร้อมระบุว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงถึงการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย กลุ่มผู้ชุมนุมใช้สันติวิธีในการแสดงออกถึงระบอบประชาธิปไตย จะนำเรื่องเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
พร้อมกันนี้ นายแทนคุณ ยังได้กล่าวขอบคุณที่ดำเนินกิจกรรมชุมนุมโดยสงบภายใต้กรอบกติกา ยืนยันไม่ได้เลือกข้างเลือกฝ่ายใดในการรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม ยินดีรับทุกกลุ่ม เพราะต้องการให้ใช้กลไกของรัฐสภาให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
ทั้งนี้ การชุมนุมของกลุ่ม ศอปส. ยังเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับการชุมนุมของ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) โดยผู้ชุมของทั้ง 2 กลุ่มทยอยเดินทางมาถึงบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา ในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
กลุ่มศรช. ภายใต้การนำของนายอนุสรณ์ อุณโณ อาจารณ์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการทำกิจกรรมแสดงจุดยืน “ไม่แก้ไข เขียนใหม่เท่านั้น” และยังมีการแสดงละครเงียบล้อการเมือง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องขอความร่วมมือ จากผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม ให้แยกชุมนุมกันคนละฝั่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน โดยในวันนี้ ฝ่ายความมั่นคง นำกำลังตำรวจจากพื้นที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล (บก.น.1) และ กองบังคับการตำรวจนครบาล (บก.น.4) กว่า 200 นาย ตั้งแถวตรึงกำลังบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาอย่างแน่นหนา พร้อมตั้งรั้วเหล็กกั้นด้วย
ในส่วนการยื่นข้อเรียกร้องของทางศรช. นั้น มีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้เป็นตัวแทนมารับหนังสือขอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจากกลุ่มครช. พร้อมระบุว่า พรรคฝ่ายค้านมีความคิดเห็น ไปในทิศทางเดียวกันกับทุกคน ที่มาวันนี้ ในเรื่องที่ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีปัญหา เหนี่ยวรั้งการพัฒนาประเทศ จึงเห็นว่า จำเป็นต้องแก้ไขด่วน
อย่างไรก็ดี นายสุทินชี้ว่า บันไดที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญได้คือ ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบหนึ่ง ที่ทำให้รัฐธรรมนูญแก้ไขได้ ต้องขอบคุณ ครช.ที่ได้ร่างประชามติมาให้ ฝ่ายค้านจะรับ และนำไปตรวจสอบสาระ และข้อกฎหมาย ก่อนที่จะให้สมาชิกส.ส.ลงชื่อ และเสนอญัตติภายในวันพฤหัสบดี หรือวันศุกร์ ภายในสัปดาห์นี้
เมื่อเข้าสู่วาระของสภาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เราจะต้องร่วมมือกันให้มากขึ้น นอกจากนี้ฝ่ายค้านยืนยันว่าร่างแก้ไรรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านมี 2 เรื่องหลักที่จะแก้มาตรา 256 และตั้ง สสร. ซึ่งอยู่ในทิศทางเดียวกันกับ ครช. แน่นอน
ภาพ : Twitter @iLawFX, @prachatai
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ม็อบ ‘ครช.’ บุกรัฐสภา จี้เขียน ‘รธน.ใหม่’ ทั้งฉบับ ‘สุทิน’ ยืนยันเห็นตรงกัน
- ‘2 ม็อบ’ บุกสภาพร้อมกัน ‘ครช.-ปกป้องสถาบัน’ ตำรวจขอแยกคนละฝั่ง หวั่นปะทะ
- คนแน่น ‘สกายวอล์ค ปทุมวัน’ ร่วมชุมนุม #ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง
