COLUMNISTS

‘โค้ชชิ่ง’ ช่วย ‘ยกระดับผลงาน’ ได้จริงหรือ

Avatar photo
Consulting Partner สลิงชอท กรุ๊ป
1154

“โค้ชชิ่ง” เป็นเครื่องมือในการช่วยยกระดับผลการทำงานจริงได้หรือ

จริงครับ โค้ชชิ่ง เป็นเครื่องมือในการช่วยยกระดับผลการทำงานของพนักงาน และของหน่วยงานโดยรวมด้วย

GettyImages 656222451
Young business coach talking about business

ผู้บริหารทุกคนต่างรู้ดีว่า ตัวเองมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบผลงานโดยรวมทั้งหมดของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และแม้ความรับผิดชอบทั้งหมด จะอยู่ที่ท่าน แต่ท่านก็ไม่ได้ทำงานทั้งหมดด้วยตัวเอง ท่านต้องกระจายงานให้กับลูกน้อง

ดังนั้น ท่านจะมั่นใจได้ยังไงว่าลูกน้องแต่ละคน ทำผลงานได้ตามที่ท่านคาดหวัง

จึงไม่มีทางเลือก ท่านต้องลงไปติดตามดูการทำงานของพวกเขาเหล่านั้น ถ้าลูกน้องคนไหนทำได้ดี ท่านก็อยากจะสนับสนุนให้เขาทำได้ดีขึ้นไปอีก ถ้าลูกน้องคนไหนยังทำได้ไม่ดี ท่านก็ต้องเข้าไปสนับสนุนให้เขารู้ตัว และช่วยให้เขาแก้ปัญหานั้นให้ได้

ไม่ว่าท่านจะช่วยให้เขาต่อยอดสิ่งที่ดีอยู่แล้ว หรือแก้ไขสิ่งที่ยังทำได้ไม่ดี เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ที่ท่านจะเอามาใช้คือ โค้ชชิ่ง เพราะโค้ชชิ่งเป็น 1 ใน 4 ของขั้นตอนสำคัญ ของ ระบบการบริหารผลงาน หรือ Performance Management System

โดยปกติแล้ว ระบบการบริหารผลงานจะเริ่มจาก

ขั้นตอนที่ 1 คือการทำ Performance Planning เป็นกำหนดให้ พนักงานวางแผนการปฏิบัติงาน ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ขององค์กรในแต่ละปี ถ้านับตามปีปฏิทินพนักงานจะทำ Performance Planning ตั้งแต่ปลายปีก่อนเพื่อใช้แผนที่วางไว้ มาเป็นแนวทางในการทำงานในปีนี้

GettyImages 1163145791

จากนั้น ขั้นตอนที่ 2 ของการบริหารผลงานคือการทำ Performance Coaching & Feedback โดยหัวหน้าจะทำการติดตามผลการทำงานของลูกน้อง เพื่อดูว่าผลงานของลูกน้องแต่ละคน บรรลุเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ โดยการเข้าไปให้คำแนะนำ สนับสนุนให้ผลการทำงานที่ดีอยู่แล้ว เดินหน้าต่อไป

ถ้าผลการทำงานมีอุปสรรคระหว่างทาง ก็จะช่วยให้พนักงานแก้ปัญหาเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมาย

ส่วน ขั้นตอนที่ 3 คือการทำ Performance Evaluation เป็นการวัดและประเมินผลงานของพนักงานที่เกิดขึ้นตามตัวชี้วัด หรือ KPI ที่กำหนดไว้ในแต่ละงาน

จากนั้นก็จะเข้าสู่ ขั้นตอนที่ 4 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบริหารผลงาน คือ Performance Rewarding เป็นการนำผลจากการประเมิน ไปปรับปรุงระบบการบริหารบุคลากรในด้านต่าง ๆ เช่น การปรับขั้นเงินเดือน การจ่ายโบนัส การเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง การวางแผนพัฒนา การหมุนเวียนสับเปลี่ยนหน้าที่การทำงานเป็นต้น

ดังนั้น เราจะเห็นว่า ในขั้นตอนที่ 2 นี้แหละครับ คือขั้นตอนที่หัวหน้าจะนำ โค้ชชิ่ง มาชวนลูกน้องคิดแก้ปัญหา ในกรณีที่ลูกน้องมีผลงานไม่ดี หรือเกิดอุปสรรคในการปฏิบัติงาน เพื่อให้ผลงานดีขึ้น เพราะหากหัวหน้าไม่เข้าไปสนับสนุนเพื่อให้เขาหาทางออกของปัญหา ผลกระทบที่ตามมาก็จะเกิดกับผลการทำงานของพนักงานโดยตรง และสุดท้าย ก็จะกระทบกับผลงานโดยรวมของหน่วยงาน

GettyImages 927616464

โค้ชชิ่ง จึงเป็นเครื่องมือในการช่วยยกระดับผลการทำงานของพนักงาน

ท่านต้องทำหน้าที่เป็นโค้ช และถ้าท่านโค้ชสำเร็จ ผลงานของพนักงานแต่ละคนจะดีขึ้น และจะนำมาซึ่งผลงานโดยรวม ของหน่วยงาน ซึ่งเป็นเป้าหมายในการบริหารผลงานของท่านจริงไหมครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม