เช็ครายชื่อโรงแรมที่ใช้กักตัว ‘โควิด’ ที่นี่ ศบค. ยืนยันทุกโรงแรมที่ใช้เป็นพื้นที่ ASQ ได้รับการตรวจสอบจาก “สธ.-ฝ่ายความมั่นคง” อย่างเข้มงวด มีมาตรฐานสูง สามารถเช็ครายชื่อโรงแรมที่ใช้กักตัว ได้ทาง www.hsscovid.com
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ชี้แจงกรณีการกักตัวรูปแบบ Alternative State Quarantine (ASQ) โดยการใช้โรงแรม เป็นพื้นที่ในการกักตัวสังเกตอาการ ซึ่งไม่ได้มีการปิดบังแต่อย่างใด โดยประชาชนสามารถ เช็ครายชื่อโรงแรมที่ใช้กักตัว ได้ทาง www.hsscovid.com
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทุกโรงแรม ที่ใช้พื้นที่เป็นสถานที่กักกัน ได้รับการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข และฝ่ายความมั่นคงอย่างเข้มงวด มีมาตรฐานระดับสูง ในกรณีที่บางโรงแรมเปิดให้บริการด้านอื่น ๆ อาทิ ร้านอาหาร และเปิดให้แขกทั่วไปเข้าพัก ก็มีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด สำหรับผู้ที่กักตัวสังเกตอาการ แยกโซนเฉพาะผู้กักตัวไม่ปะปนกับคนทั่วไป
“จะพักอยู่แต่ในห้องส่วนตัว รับประทานอาหารส่วนตัว แยกของใช้ส่วนตัวและถุงขยะ รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง ถ้าพบเชื้อจะมีการนำส่งโรงพยาบาลทันที รวมถึงมีแพทย์ พยาบาล ให้การดูแลตลอด 24 ชม. จนกว่าจะครบ 14 วัน” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนให้ความมั่นใจ เข้ารับบริการจากโรงแรมดังกล่าว และอุดหนุนร้านค้าประกอบการในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมขอบคุณโรงพยาบาล ที่ได้ให้ความร่วมมือในการให้พื้นที่เป็น ASQ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันหยุดโควิด แต่ไม่หยุดเศรษฐกิจไทย
โฆษก ศบค. เผยกรณีทหารสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเพื่อรับการฝึก ได้เข้าสู่สถานที่กักตัวสังเกตอาการแบบ ASQ ใน 3 โรงแรม ได้แก่ โรงแรม Anantara Riverside โรงแรม The Idle และโรงแรม Conrad โดย EOC กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 110 นาย ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อ ซึ่ง ศบค. ได้มอบหมายให้กองทัพบกและกระทรวงสาธารณสุขรายงานข้อมูลแก่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติ (UN) ได้ชื่นชม ประเทศไทย ในการรับมือ “โควิด” ชี้เป็นตัวอย่างของความแข็งแกร่งและความสามัคคี จนปัจจุบันไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศนานกว่าสองเดือนแล้ว ซึ่งความสำเร็จนี้มาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ
1. การดำเนินการมาตรการของรัฐบาล
2. ความรับผิดชอบต่อสังคมของจิตอาสา
3. ความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนในการช่วยกันป้องกันโรค ซึ่งปัจจัยความสำเร็จเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนคนไทยอีกด้วย
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย วานนี้ (7 ส.ค.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย มาจาก State Quarantine หรือสถานที่กักกันของรัฐจัดให้ทั้งหมด ทำให้มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,345 ราย (ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และมาจากสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 400 ราย) รักษาหายป่วยแล้ว 3,148 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 139 ราย และไม่มีเสียชีวิตเพิ่มตัวเลขยังคงที่ 58 ราย เช่นเดิม สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย เดินทางมาจากประเทศอียิปต์ 4 ราย ซาอุดิอาระเบีย 10 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของโลก พบผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 19,256,652 ราย เพิ่มขึ้น 282,728 ราย มีผู้ป่วยเสียชีวิต 717,980 ราย เพิ่มขึ้น 6,491 ราย โดยสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ บราซิล อินเดีย รัสเซีย และแอฟริกาใต้ ตามลำดับ ส่วนประเทศไทยขณะนี้ลงมาอยู่ลำดับที่ 112 ของโลก เป็นวันที่ 3 แล้ว อย่างไรก็ตามทางฝั่งประเทศในเอเชียพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และเวียดนาม
โฆษก ศบค. รายงานจำนวนคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศวันนี้ มีผู้เดินทางกลับรวม 258 คน วันนี้ (8 ส.ค.) 502 คน และมีผู้เดินทางเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบก จำนวน 87 คน โดยตั้งแต่ 3 เมษายน – 6 สิงหาคม ยอดคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักกันตัวในที่กักกันของรัฐจัดให้ (State Quarantine และ Local Quarantine) มีจำนวน 72,723 ราย กลับบ้านแล้ว 62,934 ราย พบผู้ติดเชื้อจากสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 408 ราย รักษาหายและกลับบ้านได้แล้ว 269 ราย
สำหรับยอดสะสมการใช้งาน www.ไทยชนะ.com ตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้ใช้งาน 40,801,249 คน ร้านค้าลงทะเบียน 282,948 ร้าน โดยสัดส่วนการเช็คอิน/เช็คเอาท์ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะอยู่ที่ร้อยละ 95 ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะร้อยละ 5 และยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไทยชนะ 880,131 ครั้ง ทั้งนี้ การตรวจกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายด้านการดำเนินชีวิต วันที่ 6 สิงหาคม 63 ได้ทำการตรวจทั้งหมด 1,919 แห่ง พบกิจการ/กิจกรรมที่ปฏิบัติตามมาตรการไม่ครบ 27 แห่ง และไม่มี “ไทยชนะ” 27 แห่ง ในตอนท้าย โฆษก ศบค. ย้ำ หากประชาชนมีเรื่องร้องเรียน สามารถโทรแจ้งได้ที่เบอร์ 191 , 1599 หรือ 1138 สายด่วน ศปม.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สถานการณ์โควิดยังรุนแรง ‘หมอธีระ’ เตือนไทยเสี่ยงระบาดซ้ำมากขึ้นเรื่อยๆ
- ศบค.ชุดเล็ก ถกผ่อนปรน 5 เรื่อง จับตาขยายเวลาเปิดสถานบริการถึง 02.00น.
- ศบค. ไฟเขียวต่างชาติเข้าไทย เปิดทางจ้างแรงงานต่างด้าว
