ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ เปิดซื้อขายในวันนี้ (5 ก.ย.) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ น่าจะเดินหน้าแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้ารอบใหม่จากจีน หลังสิ้นสุดการเปิดรับฟังความเห็นในเรื่องนี้ และตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือนกรกฎาคมพุ่งสูงขึ้น
นักลงทุนยังมุ่งความสนใจไปที่หุ้นโซเชียลมีเดีย เนื่องจากในวันนี้ ผู้บริหารทั้งจากเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ จะต้องเข้าให้การต่อสภาคองเกรส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 25,912.60 จุด ลดลง 39.88 จุด หรือ 0.15% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 18.38 จุด หรือ 0.63% มาอยู่ที่ 2,78.01 จุด และดัชนีแนสแด็กร่วงไป 103.50 จุด หรือ 1.28% มาอยู่ที่ 7,988.76 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ในเดือนกรกฎาคม สหรัฐมียอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 9.5% มาอยู่ที่ 50,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าที่เพิ่มมากขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ผลจากการนำเข้าที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
นักวิเคราะห์จากอาร์ดีคิว อิโคโนมิคส์ ระบุว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าดังกล่าว ทำให้สหรัฐมีการขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มสุงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ไม่มีแนวโน้มที่รัฐบาลสหรัฐ จะผ่อนท่าทีในเรื่องการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนแต่อย่างใด