Social

‘ประวิตร’ ลงพื้นที่ภาคเหนือพรุ่งนี้ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

“ประวิตร” กำหนดลงพื้นที่ภาคเหนือในวันพรุ่งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ และเร่งช่วยเหลือประชาชน รวมถึงเกษตรกร ที่ประสบภัยพิบัติ จากเหตุน้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลาก

วันนี้ (5 ส.ค.) พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.)  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อติดตามสถานการณ์ และเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ประสบอุทกภัย และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

a111111

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดนั้น  กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า เหตุน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำไหลหลาก จากอิทธิพลพายุ “ซินลากู” (SINLAKU) ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ  รวมถึง น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ และพิษณุโลกนั้น ปัจจุบันสถานการณ์น้ำ คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุ “ซินลากู” ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 จนถึงวันนี้ ส่งผลให้  มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำไหลหลาก รวม 13 จังหวัด รวม 45 อำเภอ 109 ตำบล 459 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ
20,622 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย (หนองบัวลำภู พิษณุโลก อุดรธานี) ผู้บาดเจ็บ 1 ราย (พิษณุโลก)

116909998 2041744112625717 2369077539872219126 n

ในส่วนของภาคเหนือนั้น พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ มีอยู่  8 จังหวัด 32 อำเภอ 82 ตำบล 345 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,381 ครัวเรือน

  • น่าน

พื้นที่ได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองน่าน อำเภอภูเพียง อำเภอนาน้อย อำเภอเวียงสา อำเภอปัว อำเภอบ้านหลวง และอำเภอท่าวังผา รวม 19 ตำบล 64 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 686 ครัวเรือน

  • อุตรดิตถ์

พื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอฟากท่า และอำเภอน้ำปาด รวม 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 371 ครัวเรือน

  • ลำปาง

พื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังเหนือ อำเภอแจ้ห่ม อำเภอเมืองปาน และอำเภองาว รวม 12 ตำบล 60 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 2,180 ครัวเรือน

  • พะเยา

พื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน อำเภอเมืองพะเยา และอำเภอดอกคำใต้ รวม 13 ตำบล 50 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 823 หลัง

  • เชียงราย

พื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอสรวย รวม 9 ตำบล 107 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 14,940 ครัวเรือน

117112695 2040575469409248 177838584411376849 o

  • เชียงใหม่

พื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอสันทราย อำเภอฝาง อำเภอไชยปราการ อำเภอพร้าว อำเภอสะเมิง อำเภอแม่อาย อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่แตง รวม 18 ตำบล 35 หมู่บ้าน

  • แพร่

พื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแพร่ และอำเภอสอง รวม 4 ตำบล 13 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 10 ครัวเรือน

  • พิษณุโลก

พื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอได้แก่ อำเภอนครไทย และอำเภอชาติตระการ รวม 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 371 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 ราย

ทั้งนี้  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่พร้อมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย เครื่องสูบน้ำ และยานพาหนะให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค

อีกทั้งยังจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ  โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo