ศาลปกครองกลางสั่ง “การรถไฟฯ” จ่ายเงิน 3.1 ล้านบาทให้ “ประภัสร์ จงสงวน” ฐานถูกเลิกจ้างก่อนหมดสัญญาโดยไม่ได้กระทำผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จ่ายเงิน 3,139,452.05 บาท แก่นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟฯ จากกรณีที่การรถไฟฯ เลิกจ้างนายประภัสร์ เป็นผู้ว่า ก่อนครบอายุสัญญา
ศาลปกครองกลางได้ให้เหตุผลว่า การรถไฟฯ มีสัญญาจ้างนายประภัสร์ เป็นผู้ว่า ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 -17 พฤษภาคม 2558 แต่การรถไฟฯ เลิกจ้างนายประภัสร์ก่อนครบสัญญา โดยที่นายประภัสร์ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและการรถไฟฯ ก็ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า อีกทั้งการเลิกจ้างก็ไม่เข้าเหตุผลตามข้อ 5.3 ในสัญญา ที่กำหนดให้การรถไฟฯ มีสิทธิเลิกจ้างนายประภัสร์ได้ โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า ถ้าหากมีเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ทุจริตต่อหน้าที่หรือฝ่าฝืนข้อบังคับ เป็นต้น
ดังนั้น ร.ฟ.ท. จึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า เท่ากับอัตราจ้างเดือนสุดท้าย 1 เดือน และรับผิดชดใช้เงินค่าตอบแทนเท่ากับค่าจ้างเดือนสุดท้ายของนายประภัสร์ คูณด้วยระยะเวลา 6 เดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 3,139,452.05 บาท โดยรวมดอกเบี้ยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายประภัสร์ ถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 79/2557 ให้พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 โดย คสช. ให้เหตุผลว่าเพื่อให้การปฏิบัติงานของการรถไฟฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น จากนั้นนายประภัสร์ได้ยื่นฟ้องการรถไฟฯ เพื่อขอให้ชำระค่าเสียหายจากการถูกเลิกจ้างดังกล่าว เพราะทำให้นายประภัสร์ได้รับความเดือดร้อน
