ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (4 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางแรงกดดันจากความตึงเครียด ระหว่างจีน กับสหรัฐ ที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าบีบให้ขายธุรกิจ “TikTok” ในสหรัฐ ทั้งนักลงทุนยังผิดหวังกับผลประกอบการรายสัปดาห์ของราล์ฟ ลอเรน และเอไอจี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 26,774.93 จุด ขยับขึ้นมา 110.53 จุด หรือ 0.41% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,301.58 จุด เพิ่มขึ้น 6.97 จุด หรือ 0.21% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,911.41 จุด บวก 8.61 จุด หรือ 0.08%
ราคาหุ้น ราล์ฟ ลอเรน คอร์ป บริษัทผลิตเสื้อผ้าชั้นนำ ดิ่งลงถึง 6.8% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา หลังบริษัทรายงานผลประกอบการรายไตรมาสร่วงลงไปเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องปิดร้าน และการชะลอตัวในความต้องการสินค้าหรูหราของโลก
เช่นเดียวกับราคาหุ้นของ อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ที่ร่วงลง 5.2% หลังบริษัทประกาศผลกำไรที่ซบเซาลง
อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐ ที่แสดงให้เห็นว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนมิถุนายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 5.0% หลังจากพุ่งขึ้น 7.7% ในเดือนพฤษภาคม
การดีดตัวของคำสั่งซื้อภาคโรงงานได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธ และเครื่องบิน เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนมิถุนายน โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ทรุดหนักสุดรอบกว่า 70 ปี จีดีพีไตรมาส 2 หดตัว 32.9%
- พลิกวิกฤติเป็นโอกาส! รัฐอินเดีย ดันส่งออก ‘พยาบาล’ ดึงเงินส่งกลับบ้าน หนุนศก.หลังโควิด
- ญี่ปุ่นไฟเขียว! ให้คนไทยบางกลุ่มเข้าประเทศได้ มีผล 29 ก.ค.เป็นต้นไป