Economics

‘บขส.’ เปิดประมูลมินิบัส 55 คันรอบ 3 วงเงิน 230 ล้าน

มินิบัส3

“บขส.” เปิดประมูลรถมินิบัส 55 คันรอบที่ 3 วงเงิน 230 ล้านบาทเป็นรอบที่ 3 ยันใช้สเปคเครื่องยนต์หลัง

นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า ในเดือนนี้ บขส. จะเปิดประมูลโครงการเช่ารถโดยสารขนาดเล็ก (Mini Bus) ความยาวไม่เกิน 8 เมตร จำนวน 55 คัน เป็นระยะเวลา 4 ปี ภายใต้กรอบวงเงิน 230 ล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีอุปสรรคใดๆ การประกวดราคาจะใช้เวลาประมาณ 45 วันและสามารถลงนามสัญญากับผู้ชนะการประมูลในเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นจะให้เวลาเอกชนประกอบและส่งมอบรถทั้งหมดภายใน 8 เดือน หรือไม่เกินเดือนกันยายน 2562 โดยจะแบ่งการส่งมอบรถออกเป็น 2 งวด

ทั้งนี้ การประกวดราคาเช่ารถมินิบัสครั้งนี้ นับเป็นรอบที่ 3 โดยการประมูล 2 ครั้งแรก ไม่มีเอกชนยื่นประมูล เพราะราคากลางต่ำเกินไป ในรอบนี้ บขส. จึงได้สำรวจราคาตัวรถจากแบรนด์ต่างๆ ทั้งแบรนด์จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และยุโรป แล้วนำราคามาเฉลี่ย เพื่อหาต้นทุนที่เหมาะสม โดยหลังจากสำรวจแล้ว บขส. ได้เพิ่มราคากลางของค่าเช่าและค่าซ่อมเหมาในการประมูลครั้งนี้เป็น 2,876 บาท/คัน/วัน จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 2,100 บาท/คัน/วัน

มินิบัส1

สำหรับกรณีที่มีการกล่าวหาว่า บขส. ล็อกสเปครถมินิบัสให้กับผู้ประกอบการบางราย เพราะทีโออาร์กำหนดให้เครื่องยนต์อยู่ด้านหลังตัวรถ แตกต่างกับรถมินิบัสส่วนใหญ่ในท้องตลาดประเทศไทย เช่น แบรน์ฮีโน่ โตโยต้า เบนซ์ ที่มีสายการผลิตเครื่องยนต์ด้านหน้าตัวรถ

นายจิรศักดิ์ ชี้แจงว่า คณะกรรมการร่างเงื่อนไขการประมูล (TOR) ยืนยันจะกำหนดให้เครื่องยนต์อยู่ด้านหลังตัวรถเหมือนเดิม เนื่องจากมีข้อดีหลายด้าน ได้แก่ เครื่องยนต์เงียบ, บำรุงรักษาง่าย, พื้นที่ในตัวรถจะราบเรียบและกว้างขวาง เพราะไม่ต้องเสียพื้นที่ให้เครื่องยนต์ ส่งผลให้ผู้โดยสารสะดวกสบายมากขึ้น

นอกจากนี้ การใช้รถมินิบัสเครื่องยนต์หลัง ก็นับเป็นการทดลองเครื่องยนต์ที่แตกต่างจากท้องตลาด ทำให้ได้รู้ข้อดีข้อเสียของเครื่องยนต์ทั้ง 2 แบบและสามารถนำไปปรับใช้ได้ในอนาคต เพราะการจัดหารถมินิบัส 55 คัน เป็นเพียงโครงการทดลองและนำร่องตามนโยบายของรัฐบาล การจัดหาก็ใช้วิธีเช่า ไม่ใช่จัดซื้อ

บขส. ก็ได้ชี้แจงเหตุผลเหล่านี้ระหว่างการนำทีโออาร์ขึ้นรับฟังความเห็นแล้ว ซึ่งก็ไม่มีผู้สอบถามเพิ่มเติม จึงเชื่อว่าเหตุผลของคณะกรรมการร่างทีโออาร์เป็นที่ยอมรับได้และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลอย่างน้อย 3 ราย

“รถในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์หน้า เราก็มาพิสูจน์ว่าเครื่องยนต์หน้า หรือเครื่องยนต์หลังดีกว่ากัน ซึ่งโครงการนี้เป็นการเช่ารถเพื่อทดลองว่ารถมินิบัสเป็นอย่างไร สเปคแบบไหนดีหรือไม่ดี ซึ่งคณะกรรมการทีโออาร์ก็ยืนยันสเปคนี้และระบุว่ามีมากกว่า 3 รายที่ทำตามสเปคนี้ได้” นายจิรศักดิ์กล่าว

มินิบัส2

ทั้งนี้ บขส. จะนำรถมินิบัส 55 คัน ออกวิ่งให้บริการระหว่างกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร ซึ่งเดิมมีรถตู้โดยสารให้บริการอยู่ เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี เส้นทางกรุงเทพฯ-อยุธยา เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบายของรถตู้โดยสารและรถมินิบัส ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม

นายจิรศักดิ์ กล่าวอีกว่า บขส. อยู่ระหว่างทบทวนทีโออาร์โครงการจัดหารถโดยสารขนาดใหญ่ ความยาว 12 เมตร จำนวน 314 คัน วงเงิน 2,200 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ จากนั้นจะนำทีโออาร์ขึ้นประชาพิจารณ์ในเดือนตุลาคม แต่จะเปิดประมูลเมื่อไหร่ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องรอดูผลประชาพิจารณ์ก่อน แต่หากการประกวดราคาสำเร็จและได้ลงนามสัญญา ก็คาดว่าจะใช้เวลาส่งมอบประมาณ 12-14 เดือน โดยแบ่งการส่งมอบรถเป็น 7-8 งวด งวดละ 40-45 คัน

Avatar photo