General

‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ นำโด่ง นโยบายพรรคการเมือง คนชอบที่สุด

ผลสำรวจความคิดเห็นพบ “บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ” นำโด่ง นโยบายพรรคการเมือง ที่ประชาชนชื่นชอบมากสุด ขณะ ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่คนอยากให้ดำเนินการแก้ไข เร่งด่วนสุด 

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น ในหัวข้อ “นโยบายพรรคการเมือง และสิ่งที่ต้องการ ให้พรรคการเมือง แก้ไขเร่งด่วน” ที่ดำเนินการ สอบถามความเห็น ประชาชนทั่วประเทศ ทั้งทางออนไลน์ และ สัมภาษณ์ตัวต่อตัว จำนวน 1,328 คน

บัตรคนจน ๒๐๐๘๐๓ 0

บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ  นำโด่งนโยบายพรรคการเมือง ที่ประชาชนชื่นชอบ

  • บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ                                                       พรรคพลังประชารัฐ   59.46%
  • โครงระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า / สาธารณสุข                พรรคเพื่อไทย          41.59%
  • โครงการเราไม่ทิ้งกัน เยียวยา 5,000 บาท/เดือน                พรรคพลังประชารัฐ   18.08%
  • ประกันรายได้ 5 พืชเกษตร                                               พรรคประชาธิปัตย์     11.35%
  • เบี้ยผู้สูงอายุ / คนพิการ                                                   พรรคพลังประชารัฐ     4.95%
  • นโยบายกัญชา ทางการแพทย์                                          พรรคภูมิใจไทย          4.27%
  • การปรับขึ้น ค่าแรงขั้นต่ำ                                                  พรรคพลังประชารัฐ     2.48%
  • กองทุนหมู่บ้าน                                                               พรรคเพื่อไทย             2.02%
  • OTOP                                                                            พรรคเพื่อไทย             1.78%
  • นโยบายเด็กแรกเกิด                                                        พรรคพลังประชารัฐ      1.40%

สิ่งที่ต้องการให้พรรคการเมืองไทย ดำเนินการเร่งด่วน ในขณะนี้

  • ปัญหาเศรษฐกิจ                                                           49.45%
  • เร่งแก้ไข ปัญหาแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19                  14.94%
  • ว่างงาน ไม่มีงานทำ ตกงาน                                             8.80%
  • ปราบปรามการทุจริต เร่งแก้ไข ปัญหาการคอร์รัปชัน          8.16%
  • พัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ ของประชาชน          7.88%
  • ปัญหาค่าครองชีพสูง                                                       6.60%
  • ให้ความช่วยเหลือภาคเกษตร                                           6.32%
  • ร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้า                         5.77%
  • เร่งสร้างความสามัคคี ปรองดอง ในสังคม                           5.32%
  • สร้างอาชีพที่ยั่งยืน สร้างรายได้ ให้กับประชาชน                 4.77%

บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ

สิ่งที่ต้องการให้พรรคการเมืองไทย ช่วยเหลือประชาชนรากหญ้า

  • ช่วยเหลือด้านภาคเกษตร                                               20.92%
  • สร้างอาชีพยั่งยืน สร้างรายได้ให้กับประชาชน                  1 9.63%
  • ปัญหาว่างงาน ไม่มีงานทำ ตกงาน                                  13.30%
  • ปัญหาเศรษฐกิจ                                                            12.75%
  • แก้ไขปัญหาความยากจน                                                10.83%
  • เร่งแก้ไขปัญหา แพร่ระบาดของโรคโควิด-19                     9.63%
  • ปัญหาค่าครองชีพสูง                                                       9.27%
  • พัฒนาคุณภาพชีวิต และ ความเป็นอยู่ของประชาชน           9.17%
  • ปัญหาหนี้ของประชาชน เช่น หนี้นอกระบบ                        4.40%
  • ปรับขึ้นเงินเดือน เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดือนข้าราชการ       3.67%

ข้อมูลเพิ่มเติม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

จุดเริ่มต้นมาตรการสวัสดิการแห่งรัฐ

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาความยากจน โครงการประชารัฐสวัสดิการ ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้พ้นจากปัญหาความยากจน ของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วยการให้มีการขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลัง จากนั้นจะออกเป็นบัตรสวัสดิการเพื่อช่วยในการลดค่าครองชีพ ทั้งการซื้อสินค้า และการเดินทาง

กระทรวงการคลังได้ดำเนินมาตรการในการแก้ไขปัญหาความยากจน ด้วยการเปิดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด ลงทะเบียน
ระหว่างวันที่ 3 เมษายน – 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมภายใต้โครงการ e-Payment ภาครัฐ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการจัดสวัสดิการสังคมและการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐ

สำหรับการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการจะแบ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยรัฐบาลจะให้เงินใส่ไปในบัตรสวัสดิการ ให้ผู้ที่มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียน นำไปใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยคนที่มีรายได้ต่ำกว่า ปีละ 30,000 บาท จะได้เงินไปซื้อของใช้เดือนละ 300 บาท ส่วนคนที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ได้รับเงินเดือนละ 200 บาท และได้เงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มคนละ 45 บาท ต่อ 3 เดือนครั้ง ส่วนการลดค่าใช้จ่ายเดินทาง คือถ้าเดินทางด้วยรถเมล์รถไฟฟ้า จะได้รับเงินเดือนละ 500 บาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo