COVID-19

‘ทหารสหรัฐ’ เข้าไทยอีก 110 นาย ย้ำกักตัวเข้มในสถานกักตัวทางเลือก

ทหารสหรัฐ เข้าฝึกในไทย 110 นาย ศบค.ย้ำ ผ่านการตรวจเข้ม ป้องกันโควิด-19 ตามมาตรการของ ศบค. ทุกนาย พร้อมเข้ากักตัวในสถานกักตัวทางเลือก

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เปิดเผยว่า วันนี้ (3 ส.ค.) มีเที่ยวบินที่นำ ทหารสหรัฐ เข้าฝึกในไทย รวม 103 นาย โดยมาจากกวม 71 นาย และจากโยโกตา 32 นาย และพรุ่งนี้จะเดินทางเข้ามาอีก 7 นาย

ทหารสหรัฐ เข้าฝึกในไทย

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทหารทุกนาย ต้องผ่านการตรวจตามมาตรการของ ศบค. และ เข้ากักตัวในสถานกักตัวทางเลือก หรือ Alternative State Quarantine : ASQ

สำหรับจำนวนคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศวันนี้ มีผู้เดินทางกลับรวม 207 คน วันพรุ่งนี้ 201 คน โดยตั้งแต่ 3 เมษายน – 2 สิงหาคม ยอดคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ ที่ต้องกักกันตัวในที่กักกันของรัฐจัดให้ (State Quarantine และ Local Quarantine) มีจำนวน 70,942 ราย กลับบ้านแล้ว 60,436 ราย พบผู้ติดเชื้อจากสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 383 ราย รักษาหายและกลับบ้านได้แล้ว 263 ราย

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในต่างประเทศ

ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อระลอกสองของต่างประเทศ ซึ่งบางประเทศเป็นระลอกสาม นั้น ล่าสุด ออสเตรเลีย มีตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งสูงกว่าระลอกแรก

อิสราเอล ก็มียอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในระลอกสองเช่นกัน ขณะที่ ฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อระลอกสามในเดือนกรกฎาคม ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อสูงกว่าระลอกแรก ญี่ปุ่นกับโครเอเชีย ก็มีผู้ติดเชื้อระลอกสองสูงกว่าระลอกแรก เหล่านี้เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งอยากให้ประเทศไทยไม่มีสถานการณ์เช่นนี้

ด้านรายงานของต่างประเทศ พบว่า สถานการณ์ที่เวียดนามมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นรายที่ 6 เพียงสัปดาห์เดียวมีผู้ป่วยพุ่งถึง 182 ราย ยอดรวม 621 ราย ทางการเวียดนามต้องกักตัวประชาชนมากกว่า 1 แสนคน

นพ.ทวีศิลป์1
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน

ผู้ที่เสียชีวิต 6 รายอายุตั้งแต่ 53-86 ปี ทุกรายมีโรคประจำตัว โดยที่ฮานอยปิดสถานบันเทิง ห้ามขายของริมถนนชั่วคราว เนื่องจากการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ไม่ได้รับอนุญาต

ฟิลิปปินส์ แพทย์และพยาบาล ออกมาขอให้รัฐล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นรอบใหม่ โดยบุคลากรทางแพทย์ 80 กลุ่ม เป็นตัวแทนแพทย์ 80,000 คน และพยาบาล 1 ล้านคน ได้ออกมาเตือนว่าระบบสาธารณสุขจะล้มเหลว เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดในกรุงมะนิลา และจังหวัดใกล้เคียง

ขณะที่ ฮ่องกง เจอระลอกสาม ผู้เชี่ยวชาญชี้การ์ดตก และเชื้อกลายพันธุ์แพร่เร็วขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามาจาก 3 ปัจจัย คือ 1. มาตรการที่ให้กักตัวที่บ้าน 2. รัฐบาลยกเว้นการตรวจ และการกักตัวให้กับบุคคลหลายกลุ่ม และ 3. ประชาชนผ่อนคลายวินัยไม่ระมัดระวังป้องกันโรค

“เราจะต้องเรียนรู้จากฮ่องกง เพราะฮ่องกงเจอกับระลอกสาม ที่สูงมากขณะนี้ ส่วนออสเตรเลีย เผชิญโควิดระลอกสอง ประกาศเป็นภาวะภัยพิบัติ โดยดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 คือ ห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา 20.00 – 05.00 น.วันรุ่งขึ้น อนุญาตให้ออกนอกบ้านได้เพียง 1 คนต่อครัวเรือนต่อวันในช่วงเวลานอกเคอร์ฟิว และห้ามเดินทางไปไกลเกิน 5 กิโลเมตรจากบ้าน หลังจากที่มีการพบเชื้อวันเดียว 671 ราย”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

นอกจากนี้ ศบค. ชุดเล็ก ได้นำตัวเลขของต่างประเทศมาพิจารณาร่วมกับทุกกระทรวง ซึ่ง ศบค. กำลังจะพัฒนามาตรการระดับ 4 ที่เข้มข้น โดยจะใช้สีขาว เขียว เหลือง ส้ม แดง เป็น 5 ระดับ จะประกาศให้ชัดเจนในแต่ละระดับ ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการเพื่อใช้เป็นมาตรการเดียวกัน โดยจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนรับทราบและให้ความร่วมมือต่อไป

ด้านห้องปฏิบัติการเครือข่ายของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีจำนวน 216 แห่ง และจำนวนตัวอย่างที่ได้รับการตรวจ COVID-19 RT-PCR ตั้งแต่วันที่เปิดบริการ – 31 กรกฎาคม 63 จำนวนทั้งสิ้น 749,213 ตัวอย่าง

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในไทย

สำหรับ สถานการณ์ ผู้ติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในประเทศไทย มี ผู้ติดเชื้อ รายใหม่ 3 ราย อยู่ใน State Quarantine ทั้งสิ้น ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,320 ราย มีผู้ที่หายป่วยแล้ว 3,142 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มยังคงอยู่ที่ 58 ราย ผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 120 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยใหม่ 3 รายมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย เป็นหญิงอาชีพรับจ้างอายุ 26 ปี และชายอาชีพพนักงานขับรถอายุ 43 ปี ถึงไทย 29 กรกฎาคม 63 พักที่ State Quarantine จังหวัดชลบุรี ตรวจพบเชื้อ 1 สิงหาคม 2563

รายที่ 3 จากอินเดีย เป็นนักศึกษาชายไทยอายุ 19 ปี ถึงไทย 31 กรกฎาคม 2563 พักที่ State Quarantine กรุงเทพฯ ตรวจพบเชื้อ 1 สิงหาคม 63 ทั้ง 3 รายไม่มีอาการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo