Economics

‘คลัง’ สั่ง ‘ธนารักษ์’ เร่งนำที่ดินราชพัสดุทิ้งร้างทั่วประเทศมาพัฒนา

กระทรวงการคลัง เร่ง “ธนารักษ์” นำที่ดินราชพัสดุทิ้งร้างทั่วประเทศมาพัฒนา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ พร้อมสร้างที่อยู่อาศัยข้าราชการ – ตั้งศูนย์กระจายสินค้าเกษตร

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังหารือร่วมกับ ผู้บริหาร กรมธนารักษ์ ว่า ได้มอบนโยบายให้กรมธนารักษ์เร่งนำที่ดินราชพัสดุที่ถูกทิ้งร้างทั่วประเทศ มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ด้วยการเข้าไปพัฒนาที่ดินในรูปแบบโครงการต่าง ๆ และเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในด้านการจัดหาที่อยู่อาศัย ให้กับข้าราชการพลเรือนในราคาที่เหมาะสม

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว กรมธนารักษ์ ได้รายงานความคืบหน้า ในการดำเนินโครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัย กับ สถานที่ทำงาน และ ศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือน เป็นการดำเนินการร่วมกัน ระหว่างกรมธนารักษ์ และ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยเตรียมเปิดตัวโครงการและ เปิดให้จองที่พักอาศัยช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2563 หรือ ต้นเดือนสิงหาคม 2563 ระยะแรกเปิดให้จอง 800 -1,000 ยูนิต ใน 10 จังหวัดทั่วประเทศ และ ระยะที่ 2 อีก 5,000 – 10,000 ยูนิต

กระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ กรมธนารักษ์ ไปหาพื้นที่ที่เหมาะสม โดยเร่งสำรวจที่ดินราชพัสดุ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เพื่อดูว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสม ในการพัฒนาโครงการไม่น้อยกว่า 10,000 – 40,000 ยูนิต ซึ่งข้าราชการสามารถอยู่อาศัยระยะยาวได้นาน 30 ปี

โดยผ่อนชำระผ่าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 3% ต่อปี ผ่อนชำระราคาไม่เกิน 2,000-3,000 บาทต่อเดือน และสามารถโอนสิทธิ์ เปลี่ยนมือระหว่างข้าราชการด้วยกันได้ ซึ่งแนวทางดังกล่าว จะเป็นช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และถือเป็นสวัสดิการให้กับ ข้าราชการชั้นผู้น้อย ได้มีบ้านพักอาศัยเป็นของตนเอง และถือเป็นทรัพย์สินได้อีกทางหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุที่น่าสนใจ เช่น ที่ราชพัสดุบนพื้นที่ 500 ไร่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในการครอบครอง ของกรมเจ้าท่า แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งกรมธนารักษ์ ได้ส่งหนังสือเพื่อขอพื้นที่คืน โดยให้นโยบายไปว่า ควรพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ตามนโยบายของรัฐบาล เพราะที่ดินแปลงดังกล่าวมีทัศนียภาพดีมาก มีท่าเรือสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยว

เนื่องจาก พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ มีจุดเด่นอยู่บริเวณแม่น้ำ 2 สี คือ แม่น้ำ 2 สายมาบรรจบกัน ดังนั้น หากพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว เป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีกิจกรรมการท่องเที่ยวทางเรือ เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ เช่น บึงบอระเพ็ด ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าที่มีอายุเก่าแก่ ซึ่งเป็นสถานที่ชาวนครสวรรค์ ให้ความเคารพจะสามารถพัฒนา เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ได้ และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมทั้งสร้างเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังหารือถึงการเพิ่มศักยภาพพื้นที่ โครงการศูนย์กระจายสินค้าชุมชนและพืชผลทางการเกษตร ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ในระยะแรกมีพื้นที่ดำเนินการแล้ว 16 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ส่งคืนมาให้กรมธนารักษ์ มีทั้งตัวอาคาร และที่ดิน

ทั้งนี้ จึงมีแนวคิดให้ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เข้าไปพัฒนาพื้นที่ และ มอบให้กับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เข้ามาบริหารงานแทน โดยเบื้องต้นจากการหารือกับ อ.ต.ก. คาดว่าจะพัฒนาให้เป็นตลาดกลางผลไม้และพืชผลทางการเกษตรตามฤดูกาล เพื่อเป็นแหล่งกระจายสินค้าเกษตรของทุกภูมิภาค

สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนาศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจรในพื้นที่ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 48 ไร่ ซึ่งอยู่ในการครอบครองของกรมกิจการผู้สูงอายุ ขณะนี้ถูกปล่อยทิ้งให้เสื่อมโทรม ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพสูง เนื่องจากติดชายทะเล

ดังนั้น จึงเร่งให้ กรมธนารักษ์ ไปทำแผนพัฒนาที่ดินแปลงดังกล่าวให้กลับมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเป็นศูนย์ฝึกอบรมอาชีพในการดูแลผู้สูงอายุ หรือศูนย์เรียนรู้ของผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุจากทั่วประเทศเข้ามาฝึกอบรมสร้างทักษะความรู้ในด้านต่างๆ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo