แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่นานกับการก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ของอเมซอน (Amazon) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของสหรัฐอเมริกา แต่ก็เป็นสัญญาณที่น่าจับตามอง กับการเป็นบริษัทเทคโนโลยีเบอร์สองที่สามารถก้าวข้ามตัวเลขดังกล่าวมาได้ตามหลังแอปเปิลภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือน
โดยก่อนหน้านี้ อเมซอนถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ก่อนแอปเปิล แต่ก็มาถูกแอปเปิลแซงหน้าไปในที่สุดเมื่อต้นเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ดี อเมซอนใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนในการเร่งสปีด และในช่วงเช้าของวันอังคาร 4 กันยายน มูลค่าหุ้นของอเมซอนก็ขึ้นไปแตะ 2,050.50 ดอลลาร์ และทำให้บริษัทมีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้อย่างเป็นทางการ ก่อนจะตกลงเหลือ 2,039.51 ดอลลาร์เมื่อตอนปิดตลาดของวันเดียวกัน
ทั้งนี้ หากมองเส้นทางการเติบโตของอเมซอนก็ยังถือว่ารวดเร็วกว่าแอปเปิล โดยแอปเปิลใช้เวลา 39 ปีจึงจะมีมูลค่าในระดับนี้ แต่อเมซอนใช้เวลาเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น
แอปเปิล VS แอมะซอน การโตที่แตกต่าง?
นักวิเคราะห์อย่าง Christina Farr และ Eugene Kim จาก CNBC ให้ทัศนะว่า ที่มาของมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ของอเมซอนและแอปเปิลนั้นดูเผิน ๆ อาจไม่แตกต่างกัน นั่นคือทั้งอเมซอน และแอปเปิลต่างพัฒนาโปรดักซ์หลักของตนเองจนแข็งแกร่ง แต่อเมซอนมีบางสิ่งที่เหนือกว่าแอปเปิล นั่นคือการขยายพอร์ตโฟลิโอของตนเองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้วันนี้ อเมซอนปรากฏตัวอยู่ในแทบทุกตลาด ตั้งแต่ค้าปลีก ตลาดยา ค้าออนไลน์ จนถึงธุรกิจคลาวด์
เฉพาะในตลาดอีคอมเมิร์ซ อเมซอนมีส่วนแบ่ง 49 เซนต์ในทุก ๆ 1 ดอลลาร์ของการจับจ่ายบนโลกอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกา
หรือในธุรกิจ Amazon Web Services (AWS) ที่ถูกนับเป็นกระดูกสันหลังขององค์กร เนื่องจากสามารถเข้าไปซัพพอร์ตได้กับทุกธุรกิจ ไตรมาสล่าสุด ยอดขายของ AWS เพิ่มขึ้น 49% และยังพบว่ามีบริษัทขนาดใหญ่จำนวนมากตัดสินใจเป็นลูกค้าระยะยาวกับ AWS ด้วย มากไปกว่านั้น รายได้จาก AWS ยังมีสัดส่วนถึง 65% ของรายได้บริษัทด้วย
ความแข็งแกร่งของ AWS ทำให้อเมซอนขยายไปสู่อีกหลายธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือธุรกิจยา เมื่อมีการซื้อกิจการ PillPack ร้านขายยาออนไลน์ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (ตลาดยาในสหรัฐอเมริกามีมูลค่ากว่า 450,000 ล้านดอลลาร์) ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าสามารถนำมาพ่วงกับการซื้อกิจการของโฮลฟู้ด (Whole Food) เพื่อให้ PillPack สามารถให้บริการจัดยาแบบด่วนให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
อเมซอนยังมีการจัดให้บริการทางการแพทย์แก่พนักงานในองค์กร และบริการนี้ถูกมองว่าจะนำมาปรับใช้กับภาพใหญ่ของการให้บริการสาธารณสุขในสหรัฐอเมริกาในอนาคตอันใกล้ด้วย
ด้านของสื่อโฆษณา รายได้จากธุรกิจนี้ของอเมซอนก้าวทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้จะเป็นรองกูเกิล (28,000 ล้านดอลลาร์) กับเฟซบุ๊ก (13,000 ล้านดอลลาร์) อยู่มากในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แต่อเมซอนมีโอกาสเติบโตในธุรกิจนี้อีกหลายช่องทาง โดยเฉพาะเทคโนโลยีการสั่งการด้วยเสียง ที่บริษัทมีผู้ช่วยอเล็กซ่าไว้คอยให้บริการ หรือในด้านฐานข้อมูล การที่บริษัทมีบิ๊กดาต้าเกี่ยวกับพฤติกรรมการช้อปปิ้ง ความสนใจ การค้นหา ทำให้นักโฆษณาให้ความสนใจกับแพลตฟอร์ม และสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวช่วยในการทำตลาดได้เช่นกัน
การคาดการณ์จากบริษัทวิจัย Markets and Markets ระบุว่า ตลาดของเทคโนโลยีการสั่งการด้วยเสียงจะมีมูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 (2023) หรือเท่ากับสามเท่าของตัวเลขในปัจจุบัน และเมื่อถึงวันนั้น บรรดาผู้ช่วยดิจิทัลจะต้องทำหน้าที่มากกว่าเดิม นั่นคือการมอนิเตอร์ทุกอย่างภายในบ้าน, เป็นเพื่อนพูดคุย, สั่งซื้ออาหาร, โทรนัดช่างประปา ฯลฯ เหล่านี้ทำให้อเล็กซ่าจะกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญขององค์กรในอนาคต
อีกด้านอย่างธุรกิจ Whole Food การที่อเมซอนเข้ามาปรับรูปแบบการดำเนินงานของ Whole Food อย่างรวดเร็ว จะช่วยสนับสนุนการส่งสินค้าสด และสินค้าที่อเมซอนผลิตขึ้นเองออกสู่ผู้บริโภคได้เร็วยิ่งขึ้นได้อีกต่อ
หรือหากมองออกไปนอกประเทศ การเติบโตอย่างรวดเร็วของอเมซอนในอินเดีย ตลาดที่มีผู้บริโภค 1.3 พันล้านคนก็เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญของอเมซอนด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ภาพของอเมซอนแข็งแกร่ง และกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีอันดับสองที่ก้าวทะลุเส้นแบ่ง 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้ในที่สุด
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.cnbc.com/2018/06/28/amazon-to-acquire-online-pharmacy-pillpack.html