General

สั่งการสถานพยาบาลพื้นที่เสี่ยง ดูแลประชาชนจากผลกระทบ ‘พายุซินลากู’

พายุซินลากู ถล่ม กระทรวงสาธารณสุข สั่งสถานพยาบาลป้องกันน้ำท่วม เตรียมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ด้าน คป.เตือนภัย 67 จังหวัดรับมือ

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สถานพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง จาก พายุซินลากู ระหว่างวันที่ 2 ถึง 4 สิงหาคม 2563 ตามประกาศเตือนภัยกรมอุตุวิทยา ดำเนินการตามแผนที่วางไว้

พายุซินลากู 1

ทั้งนี้ ให้เตรียมการป้องกันน้ำท่วมอาคารสถานที่ ขนย้ายยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ไว้ในที่ปลอดภัย จัดเตรียมน้ำมัน ออกซิเจน ทรัพยากรที่จำเป็นให้เพียงพอ รองรับการให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง ติดตามดูแลกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลใกล้ชิด เช่น ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก

พร้อมกันนี้ ให้เตรียมแผน และระบบส่งต่อผู้ป่วย ไปยังพื้นที่สำรองที่ปลอดภัย จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พร้อมออกปฏิบัติการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินรุนแรง ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบด้านการแพทย์ ให้ประสานกองสาธารณสุขฉุกเฉิน เพื่อให้การสนับสนุนต่อไป

นพ.สุขุม
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย

“นอกจากนี้ ให้สถานบริการทุกแห่ง ให้คำแนะนำการป้องกันอันตราย ที่อาจเกิดขึ้นจากลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่า โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ไม่แข็งแรง และอันตรายจากไฟฟ้าดูด โดยไม่สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าขณะมีน้ำท่วม และรีบยกคัตเอาท์ตัดไฟ หากเจ็บป่วยฉุกเฉินโทรสายด่วน 1669

ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยปภ.ได้ติดตามสภาพอากาศ กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อนซินลากู บริเวณอ่าวตังเกี๋ย กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองวินห์สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน

ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง และร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลาง และภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรงขึ้น คลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า3 เมตร

ชยพล ธิติศักดิ์
ชยพล ธิติศักดิ์

ปภ.จึงได้ประสาน 67 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือ น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 2-4 ส.ค. 2563 แยกเป็น สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากดังนี้  ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอนเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน พิจิตร สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์มุกดาหาร มหาสารคาม ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สมุทรสงคราม นครนายก เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 11จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาสระนอง พังงา กระบี่ และภูเก็ต

ทั้งนี้ ได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างการรับรู้ และแจ้งเตือนประชาชน ติดตามพยากรณ์อากาศ และ ประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดมาตรการความปลอดภัยทางทะเล  อีกทั้งหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo