Politics

‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่ภาคใต้ติดตามศูนย์ PIPO

“บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่ภาคใต้ ติดตามความก้าวหน้า ศูนย์ PIPO /แรงงานประมง คงเข้มมาตรการต่อเนื่อง ตั้งเป้าปราบค้ามนุษย์ ขึ้นเทียร์ 1 พอใจผลงาน พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน 

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์  ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางไปปฏิบัติราชการ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์ และความก้าวหน้าในการดำเนินงาน ของหน่วยงานในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ และเป็นตัวแทนรัฐบาล มาให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ตามนโยบายของรัฐบาล  เกี่ยวกับการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ( IUU Fishing )

โดย EU ได้ประกาศปลดใบเหลือง เป็นใบเขียวให้กับประเทศไทยแล้ว และเรื่องการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งสหรัฐได้ประกาศยกระดับประเทศไทย รายงานTIP Report จากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 เฝ้าจับตามอง ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว ถือว่าเป็นผลงานความสำเร็จที่ประเทศไทย ได้รับจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่   ที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ทุ่มเทที่ผ่านมา

ประวิตร31

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ว่า จะต้องรักษามาตรฐาน การแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายไว้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ เรื่องรายงานการค้ามนุษย์หรือ TIP Report จะต้องทำให้ดีกว่าเดิม จากเทียร์ 2 เป็น เทียร์1 ให้ได้ ในปีนี้

พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงาน ภายหลังรับฟังการบรรยายสรุป โดยเน้นย้ำให้ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (PIPO ) ต้องตรวจสอบความถูกต้องของเรือ,คนประจำเรือ,เครื่องมือการทำประมง,สัตว์น้ำและเอกสารต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการทำประมงที่ถูกกฎหมาย ต้องมีการตรวจสอบแรงงานภาคประมง ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว 4 ชาติ (เมียนมาร์,กัมพูชา,ลาวและเวียดนาม) จะต้องเป็นแรงงานถูกกฎหมาย และผ่านการคัดกรอง โควิด-19 ตามที่รัฐกำหนด ต้องมีมาตรการสร้างการรับรู้ความเข้าใจประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบ และได้รับการเยียวยา อย่างทั่วถึง ครบถ้วน รวมถึงมีความเข้าใจการบริหารทรัพยากรทางทะเลที่ยั่งยืนและกำชับ ผวจ.22จังหวัดชายทะเล ให้ใช้กลไกการทำงานของ ศรชล.สนับสนุนภารกิจ

ประวิตร311

พร้อมกันนี้ ยังได้เน้นย้ำการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยกำชับให้ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง, แรงงาน, พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกองทัพเรือ ต้องมีการสกัดกั้นการลักลอบพาคนต่างด้าวเข้าเมือง และห้ามมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการทั้งทางวินัย และทางอาญา

พล.อ.ประวิตร   กล่าวเพิ่มเติมในฐานะตัวแทนรัฐบาล มีความพอใจผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา  ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคนที่มีความทุ่มเท เสียสละ และร่วมมือกับรัฐบาล ในการแก้ไขสถานการณ์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 จนได้รับการยกย่องจาก องค์การอนามัยโลก พร้อมขอให้ยังคงระมัดระวังเว้นระยะห่างทางสังคม จากมาตรการผ่อนปรน ที่รัฐเพิ่มมากขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight