ราคาหุ้น “อีสต์แมน โกดัก” สัปดาห์นี้ ทะยานขึ้นมาแล้วถึง 1,481% ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายจำนวนมหาศาล หลังบริษัทได้รับเงินกู้ 765 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลสหรัฐ เพื่อรุกธุรกิจผลิตสารประกอบยา
มูลค่าทางตลาดของโกดัก อดีตผู้ผลิตฟิล์มรายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้นจาก 92 ล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์ จากการที่ราคาหุ้นของบริษัท ทะยานขึ้นจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (24 ก.ค.) ที่หุ้นละ 2.10 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 33.10 ดอลลาร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (29 ก.ค.)
ในช่วง 2 ชั่วโมงแรกของการเปิดตลาด ซื้อขายเมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น หุ้นโกดักถูกระงับขายอยู่หลายครั้ง หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นไปมากกว่า 3 เท่า และราคาหุ้นโกดัก ปิดตลาดเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) ลดลง 10.2% มาอยู่ที่ 29.83 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ปรากฎการณ์ดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อน นับตั้งแต่ที่บริษัทกลับเข้ามาอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ของสหรัฐ อีกครั้ง หลังจากที่หลุดพ้นจากภาวะล้มละลาย ที่ยื่นร้องของพิทักษ์ทรัพย์ไปเมื่อปี 2556
การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นโกดัก ได้แรงหนุนโดยตรงมาจากที่บริษัท ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า บรรลุข้อตกลงกู้เงินจำนวน 765 ล้านดอลลาร์ กับ “บรรษัทการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ” (ดีเอฟซี) ซึ่งเป็นหน่วยงานการเงินด้านการพัฒนาของรัฐบาลสหรัฐ
การอนุมัติเงินกู้ดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้โกดัก ผลิตสารประกอบยา ภายใต้กฎหมายการผลิตกลาโหมของสหรัฐ
ราคาหุ้นโกดัก ไต่ระดับขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่่ผ่านมา (27ก.ค.) หลังจากมีรายงานข่าวออกมาถึงเรื่องการอนุมัติเงินกู้ แต่ในเวลาต่อมา โกดักได้ร้องขอให้ถอดข่าวดังกล่าวออก
ทางด้าน จิม คอนติเนนซา ประธานกรรมการบริหารโกดัก ให้สัมภาษณเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า เขาบอกไม่ได้ว่า ราคาหุ้นพุ่งเกิดมาจากสาเหตุใด แต่สำหรับพนักงานที่โกดักแล้ว ต่างรับรู้มาก่อนล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ สหรัฐจำเป็นต้องพึ่งพา การนำเข้าส่วนประกอบของการผลิตยาเหล่านี้ จากต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “จีน” และ “อินเดีย” อย่างไรก็ตาม ระหว่างการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ประเทศผู้ผลิต ได้สั่งจำกัดการส่งออกสารสำคัญเหล่านี้ ซึ่งสร้างความกังวลต่อภาวะขาดแคลนยาในสหรัฐ
ดังนั้นรัฐบาลสหรัฐ จึงเร่งผลักดันให้บริษัทอเมริกัน หันมาผลิตสารเหล่านี้ในประเทศมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า
นอกจากนี้ การหันมาทำธุรกิจผลิตยา ยังถือเป็นหนทางที่จะทำให้โกดักฟื้นกิจการขึ้นมาได้ หลัจากธุรกิจฟิล์ม และกล้องถ่ายรูปของบริษัท ได้รับผลกระทบอย่างมาก จากการเปลี่ยนแปลง เข้าสู่ยุคของการใช้กล้องดิจิทัล
โกดัก เปิดเผยด้วยว่า บริษัทจะนำเงินดังกล่าว ไปใช้ในการขยายโรงงานที่นิวยอร์ก และมินนิโซต้า เพื่อเป็นฐานการผลิตส่วนประกอบของตัวยาที่สำคัญ
ความเป็นมา โกดัก
อีสต์แมน โกดัก หรือ โกดัก เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน จัดจำหน่ายอุปกรณ์ วัสดุ เคมีภัณฑ์ และบริการเกี่ยวกับการถ่ายภาพ สำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองรอเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งโดยนายจอร์จ อีสต์แมน เมื่อปี 2432
บริษัทรายนี้ เคยเป็นผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ ที่มียอดขายอันดับหนึ่ง มาตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยในปี 2519 มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 90% ของตลาดสหรัฐ ทั้งยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ เป็นผู้พัฒนากล้องดิจิทัลรายแรกของโลก ตั้งแต่ปี 2518
แม้จะมีผลิตภันฑ์ดิจิทัลออกมาเรื่อยๆ เเต่โกดัก บริหารการลงทุนในกล้องดิจิทัลผิดพลาด โดยการพยายามปรับให้กล้องดิจิทัล มีศักยภาพ ตรงกับกล้องฟิล์มที่มีอยู่เดิม มากกว่าที่จะใส่ใจกับความเป็นกล้องดิจิทัลจริงๆ
เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงแรก ที่มีการกล่าวถึงกล้องดิจิทัลของบริษัท อย่างเช่น รุ่น DCS-100 ราคา 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งแม้จะปรับตัว โดยการหันไปใส่ใจกับกล้องดิจิทัลจริงๆ แต่ก็เลือกที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาด ด้วยการออกเทคโนโลยี ที่ทำให้เคลื่อนย้ายภาพ จากกล้อง ไปสู่คอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น และยึดติดเเต่เครื่องอัดรูปภาพมากเกินไป โดยไม่สนใจเทคโมโลยี ที่กำลังเกิดขึ้นทำให้โกดักล้มละลายลงไปในที่สุด
บริษัทประกาศล้มละลายเมื่อเดือนมกราคมปี 2555 และประกาศเลิกผลิตกล้องดิจิทัล กล้องวิดีโอ โดยมุ่งเน้นไปทำตลาดการบริการภาพถ่ายดิจิทัลแทน
ข้อมูล : วิกิพีเดีย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ฮอนด้า’ ฟันธง ตลาดรถยนต์ปีนี้ วูบ 32% อยู่ที่ 680,000 คัน
- พุ่งไม่หยุด! จีนแผ่นดินใหญ่ เจอป่วยโควิด-19 โผล่อีก 127 ราย
- เปิดแล้ว ‘Apple Store’ เซ็นทรัลเวิลด์ สาวกแอปเปิลแห่จองคิวเต็มแล้ววันนี้
