World News

น้ำมันดิบสหรัฐหลุด 40 ดอลล์ หวั่นเศรษฐกิจซบหนัก ทำความต้องการหาย

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ดิ่งลงมาเคลื่อนไหวในระดับต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หวั่นเศรษฐกิจอเมริกันทรุดหนัก ทำความต้องการบริโภคลดลง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ในตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 39.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ร่วงลงมา 1.42 ดอลลาร์ หรือ 3.44%

GettyImages 1171065491

น้ำมันเจอกับแรงเทขาย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของปีนี้ หดตัวรุนแรงสุดในรอบกว่า 70 ปี ทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะซบเซาของเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพี ไตรมาส 2 ครั้่งที่ 1 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 32.9% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้ หลังจากหดตัว 5% ในไตรมาส 1

อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าว ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัวลง 34.7%

การหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐทั้งในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยการทรุดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งทำให้มีการปิดเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกต่อปริมาณน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในตลาด ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสจะเริ่มผ่อนคลายการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนหน้า  ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ โอเปกพลัสจะปรับลดกำลังการผลิตเพียง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนถึงสิ้นปี 2563 จากปัจจุบันที่ปรับลด 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากโอเปกพลัสไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo