Politics

‘สิระ’ ออกโรงเรียก ‘บอส อยู่วิทยา’ แจง กมธ.กฎหมาย ไม่มา 2 ครั้งเตรียมดำเนินคดี

“สิระ” ออกโรงเรียก “บอส อยู่วิทยา” ชี้แจง กมธ. กฎหมาย ไม่มา 2 ครั้ง เตรียมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ด้าน “ชูวิทย์” แฉตั้งกรรมการสอบก็เท่านั้น คดีมันจบไปแล้ว

วันนี้ (30 ก.ค. 63) นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวว่า ในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 จะมีการประชุมร่วมระหว่าง 3 กมธ. คือ กมธ.กฎหมายฯ, กมธ.ศาลฯ และ กมธ.ตำรวจ เพื่อพิจารณาคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส

บอส อยู่วิทยา

โดยผู้ชี้แจงมีทั้งตำรวจ และอัยการ รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง และ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผช.ผบ.ตร.ด้านกฎหมายและสอบสวน ซึ่งเป็นผู้ลงนามไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ รวมทั้งพยานใหม่ 2 ปาก นอกจากนี้ ได้เชิญ กมธ.กฎหมายฯ สนช. และเจ้าหน้าที่ชวเลข ที่บันทึกการประชุม กมธ. มาชี้แจงด้วย ที่สำคัญ กมธ. ได้เชิญ นายวรยุทธ และทนายของนายวรยุทธด้วย

หากนายวรยุทธ์ หรือ บอส อยู่วิทยา และทนาย ไม่ยอมมาชี้แจงต่อ กมธ. 2 ครั้ง ก็จะออกคำสั่งเรียกตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก แต่ถ้าไม่มาอีก ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ทั้งนี้ตนอยากให้นายวรยุทธ เข้ามาชี้แจงกับ กมธ. เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ประชาชนจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

นายสิระ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กมธ.จะตรวจสอบให้ความกระจ่างกับคดีนี้ ไม่มีการช่วยเหลือกัน หากไม่กระจ่างก็จะตรวจสอบอีกรอบหนึ่ง ดังนั้น ในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ก็จะได้คำตอบว่า การลงนามสั่งไม่ฟ้องนั้นใช้ดุลยพินิจอะไร รวมทั้งเรื่องยาเสพติดที่ยังติดใจกันอยู่ และการวิ่งเต้นแทรกแซงมีหรือไม่ โดยในการประชุมวันดังกล่าว กมธ.จะมีการไลฟ์สดเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อให้คลายข้อสงสัย

สิระ49624
แฟ้มภาพ

ส่วนการรื้อคดีใหม่นั้น นายสิระ กล่าวว่า ต้องดูว่าพยาน 2 ปากที่เพิ่งปรากฎใหม่นั้น ให้การเท็จหรือไม่ หากให้การเท็จก็ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่สามารถยื่นฟ้องศาลใหม่ได้ และหากการคำนวณความเร็วของรถจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหลือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเท็จก็ถือว่าเป็นพยานใหม่เช่นกัน

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า นักวิชาการวิเคราะห์ใช้สูตรคำนวณความเร็วแบบมีอคติ ตนเจอมาหลายครั้งแล้ว นักวิชาการส่วนใหญ่มีอคติ จึงต้องพิสูจน์กันให้ได้ โดย กมธ. จะลุยเอง

นายสิระ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ตำรวจยืนยันต่อที่ประชุม กมธ. เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมาว่า ประเด็นพบสารแปลกปลอมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในร่างกายของนายวรยุทธ หรือ บอส นั้น มีอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่ไม่ได้ตอบชัดเจนว่าเหตุใดจึงไม่ตั้งข้อหานี้ตั้งแต่ต้น

แต่เบื้องต้นจากการพูดคุยทราบว่า ตำรวจกำลังจะตั้งข้อหานี้ขึ้นมาใหม่ ในเฉพาะส่วนของยาเสพติด เพราะมีหลักฐานจากการตรวจสอบของโรงพยาบาลรามาธิบดีชัดเจน

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์21562

คดี “บอส อยู่วิทยา” ปิดฉากไปแล้ว!?

ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืนชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงกรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ว่า ถึงแม้จะมีการตั้งคณะกรรมตรวจสอบเรื่องดังกล่าวขึ้นมามากมาย แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า คดีดังกล่าวจบไปแล้ว ไม่สามารถรื้อฟื้นขึ้นมาได้อีก

“มันจบไปแล้วจริงๆ

เรื่องนาย บอส กลายเป็นทอร์คออฟเดอะทาวน์ที่ใครๆ หลายคนพูดถึง ทุกสื่อเอามาขยี้ละเอียดแหลก ทั้ง วิทยุ หนังสือพิมพ์ ทีวี โซเชียล

ส่วนตำรวจ อัยการ ตั้งคณะกรรมการสอบกันเองวุ่นวาย ลามไปถึงรัฐบาล รัฐสภา กรรมมาธิการสารพัด

ทั้งๆ ที่รู้อยู่คาอก ว่าแม้จะตั้งมากี่คณะกรรมการ ก็ทำอะไรไม่ได้ มันสายไปเสียแล้ว คดีมันจบไปแล้ว

เหตุที่ข่าวในประเทศไทยไม่ได้ปรากฏมาก่อนสักแอะ เพราะเขาเดินเกมเงียบจนไปถึงสุดทาง จะพลิกตำรากฎหมายเล่มไหน สำนักไหน ก็ไม่มีทางเปลี่ยนผลคดีได้

ตำรวจบอกว่า “ไม่ห้ามที่ครอบครัวผู้เสียหายสามารถไปฟ้องเองได้” แหมท่าน.. เหมือนพูดกำปั้นทุบดิน เพราะเขาได้รับเงินเยียวยาไปแล้ว และเซ็นรับว่าจะไม่ฟ้องทั้งแพ่งและอาญา

ส่วนที่ซีเอ็นเอ็นเขาได้เอาไปเปิดเผยก่อน เพราะตำรวจไทยแจ้งไปที่ตำรวจสากลให้ถอนหมายจับสื่อนอกจึงทราบก่อนว่าตำรวจสากลเขาถอนหมายแดงแล้ว จึงฉงน จนเปิดเผยเรื่องราวสั่นสะเทือนวงการยุติธรรมไทย

ขอยืนยันอีกครั้งว่า “เรื่องมันจบไปแล้ว” จากการที่อัยการไม่ฟ้อง ตำรวจไม่แย้ง กระบวนการทางกฎหมายมันสุดทาง ถอนหมายจับเรียบร้อย

นายกรัฐมนตรี บอส อยู่วิทยา

อย่าไปคิดว่าอ้ายสารพัดคณะกรรมการ ที่จัดตั้งขึ้นเอง หรือแม้แต่ท่านนายกฯ ไปตั้ง ท่านวิชา มหาคุณ เป็นกรรมการสรรหาความจริงจะไปเปลี่ยนแปลงการตัดสินของอัยการได้ เพราะกฎหมายให้อำนาจอัยการไว้ ไม่ได้ให้อำนาจใดๆ กับคณะกรรมการไว้เลยสักนิด

อยากสอบก็สอบไป ก็ท่านยืนยันว่าเป็นไปตามตัวบทกฎหมายทุกตัวอักษร ไม่มีอะไรผิด ที่สงสัยเรื่องโน่นนี่นั่น ก็สงสัยกันไป มันหามีอะไรไปเปลี่ยนแปลงได้ไม่ อีกอย่างท่านทำแบบนี้มานานแล้ว ใช่ว่าเพิ่งทำกับคดีนายบอสคดีเดียวเสียที่ไหน

ยิ่งคณะกรรมมาธิการสารพัดที่สภา ยิ่งบ่มิไก๊ ผมก็เคยเป็น เรียกมาสอบ เขาก็มาบ้าง มอบหมายท่านอื่นมาแทนบ้าง และยืนยันว่าปฏิบัติตามตัวบทกฎหมาย ไม่ได้เข้าข้างใครเป็นอันขาด แถมไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว บางท่านก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อนาย บอส

“ไม่รู้จริงจริ๊งงง ว่าเป็นลูกใคร หลานใคร”

อย่าไปหวังเปลี่ยนแปลงผลคดีเลย เพราะเดี๋ยวก็จะมีบางท่านมาบอกว่า กลัวถูกทนายของนายบอสฟ้อง ม.157 ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่กล้าเสี่ยง

รอสักพัก พอเรื่องซา นาย บอส กลับเมืองไทยแบบเงียบๆ เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม เดี๋ยวคนก็ลืม

มันจบไปแล้วจริงๆ ครับ รวมทั้งประเทศไทยด้วย… จบแล้วจริงๆ”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo