Entertainment

นุ๊ก สุทธิดา เผยทะเลาะสามี ร่ำไห้กอด น้องอดัม มะเร็งลามต่อมน้ำเหลือง 17 จุด

หลังจากนักแสดงสาว “นุ๊ก สุทธิดา” เข้ารับการรักษาผ่าตัดไทรอยด์บวมไปก่อนหน้านี้ จนทำให้พบกับความผิดปกติที่ต่อมน้ำเหลือง โดยผลตรวจเผยว่า เป็นเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งทำให้ นุ๊ก ต้องกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง โดยเลือกใช้วิธีเคมีบำบัดในการรักษา ด้วยการกลืนแร่ ก่อนออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านของ โก้ ธีรศักดิ์ เพื่อนสนิท เนื่องจากการมีแร่อยู่ในร่างกายอาจส่งผลกระทบต่อผู้อื่นได้ โดยเฉพาะลูกๆ หรือเด็กเล็กๆ แม้ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ห้ามเข้าใกล้ใคร เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์

3 นุ๊ก สุทธิดา 5

ล่าสุด (25 ก.ค.) โก้ ธีรศักดิ์ พร้อมด้วย นุ๊ก สุทธิดา ได้ไลฟ์ผ่านทางอินสตาแกรมของโก้ @korysecret เปิดใจถึงอาการป่วยของนุ๊กว่า แจ็คพอตที่ได้หมอเก่ง เพราะหลังจากอัลตราซาวด์ตรวจชิ้นเนื้อ หมอสรุปได้เลย แต่เขาไม่กล้าสรุป ตนเป็นนักแสดงดูอาการและท่าทีหมอออก ใช่แน่

ตอนนั้นทุกอย่างนิ่งเงียบ คิดถึงลูกชายคนเล็กอายุ 3 ขวบ น้องอดัม จะอยู่ยังไงโดยไม่มีแม่ เป็นเด็กลูกครึ่งอีก จะต้องกลับมาเลเซียไหม ต้องแยกกันไหม บ้านนี้ พ่อเป็นพ่อบ้าน แม่เลี้ยงทั้งครอบครัว 5 คน ตนประคองทุกอย่างไว้คนเดียว ถ้าตนล้มแล้วจะอยู่กันยังไง คิดไปต่างๆ นานา ก่อนตั้งสติแล้วตั้งคำถามว่ากลัวอะไร กลัวการจากลา กลัวการตาย ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ

8.1

พอกลับไปถึงบ้านตนบอกสามีว่าเป็นมะเร็ง ทะเลาะกันเลย สามีคิดว่าแอ๊กติ้ง เพราะสามีจะกลับต่างประเทศเดือนหน้า น้องสาวของสามีจะแต่งงาน เขาคิดว่าตนหาเรื่องไม่ให้เขากลับ ตอนนั้นตนรู้สึกว่าทำไมสามีไม่ตกใจ ดูโกรธๆ ด้วย แต่พอตนเห็น น้องอดัม ตนกอดลูกร้องไห้ สามีก็เดินมาบอกว่า ยังไม่ตายจะร้องไห้ทำไม ตอนนั้นตนงงว่าเขาโกรธอะไร เราไม่ได้ทะเลาะด้วย เพราะมัวแต่คิดว่าจะบอกลูกยังไง มีผลต่อหน้าที่การงานไหม มีเรื่องให้คิดเยอะมาก

อาการดังกล่าวรักษาให้หายได้ แต่ตนปล่อยไว้นาน รู้สึกเหมือนมีเม็ดอะไรที่คอ หมอที่ตรวจสุขภาพตนทุกปีบอกถุงน้ำ ว่างๆ ค่อยไปตรวจไม่ต้องรีบ ฉะนั้นใครรู้สึกมีเม็ด ตุ่ม ที่คอไปอัลตราซาวด์เลย โดยปกติมะเร็งไทรอยด์ใช้เวลาลุกลามนานมาก แต่ของตนลามไปต่อมน้ำเหลืองประมาณ 17 จุด ต้องตัดออกไป

ซึ่งตอนนี้ตนตัดไทรอยด์ไปแล้ว ต้องกลืนแร่เพื่อรักษา อาจต้องหลายครั้ง และต้องสู้กับตัวเอง เพราะตัดไทรอยด์แล้ว ขาดฮอร์โมนทำให้เราซึมเศร้าหดหู่ต้องกินยาปรับฮอร์โมน

อ่านข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

Avatar photo