General

บอส กระทิงแดง รอดทุกคดี ‘ส.ว.คำนูณ’ โพสต์เดือด ‘อับอาย อึดอัด คับข้อง คุกรุ่น’

บอส กระทิงแดง รอดทุกคดี ทำ “ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน” โพสต์เดือด จี้นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ ชนิดเร่งด่วน เพื่อตอบสังคม

นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊ก “คำนูณ สิทธิสมาน” กรณี บอส กระทิงแดง รอดทุกคดี โดยระบุว่า

บอส กระทิงแดง รอดทุกคดี

“อับอาย อึดอัด คับข้อง และคุกรุ่น !”

นายดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ถูกหนุ่มทายาทอภิมหาเศรษฐีระดับโลก ขับรถเฟอรารี่ชนตาย ลากไปเป็นระยะทางยาว แล้วยังถูกกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ขั้นก่อนศาล วินิจฉัยว่า ขับรถมอเตอร์ไซค์โดยประมาท เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ที่ทำให้ตัวเองตาย ต้องตกเป็นผู้ต้องหาที่ 2 มาตั้งแต่แรก ในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว

แปลว่าในชั้นต้น พนักงานสอบสวนตั้งประเด็นไว้ว่า เป็นเหตุที่เกิดจากความประมาทร่วมกันของคู่กรณี

แต่ท้ายสุด ในสำนวนสั่งคดีของอัยการ ท่านเห็นว่า เป็นเหตุประมาท ของนายดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ฝ่ายเดียว ทายาทอภิมหาเศรษฐีหาประมาทไม่ !

คิดในแง่บวก ก็ยังดี ที่ทายาทนายดาบ ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้อีก !!

เหตุเกิดเพราะ มีการร้องเรียนขอความเป็นธรรม ในชั้นอัยการ ให้สอบสวนใหม่หลายครั้ง หลายช่วงเวลา รวมทั้งร้องเรียนไปยังองค์กรอื่นด้วย ในที่สุดอัยการจึงสั่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม

ปรากฎว่า มีนายตำรวจ 2 นาย เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ มาให้การเพิ่มเติม เรื่องความเร็วของรถเฟอรารี่ โดยตรวจสอบสภาพของรถคู่กรณี โดยเปรียบเทียบกับคดีอื่น ๆ แล้ว ยืนยันว่ารถเฟอรารี่ ขับมาด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ไม่ใช่ 177 กม./ชม. บวกลบ เหมือนที่พยานผู้เชี่ยวชาญ ที่เป็นนายตำรวจเช่นกัน เคยให้การไว้ในการสอบสวนครั้งแรก

0000หกดหกห
คำนูณ สิทธิสมาน

นอกจากนี้ พยานบุคคลใหม่ มาให้การในวันที่ 4 ธันวาคม 2562 อีกด้วย โดยพยานบุคคลใหม่ทั้ง 2 รายเป็น “ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ” จึงมีความสำคัญต่อเนื่อง มาจากพยานผู้เชี่ยวชาญใหม่ข้างต้น

เพราะเรื่องความเร็วของรถ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เป็น “ประเด็นสำคัญแห่งคดี” นี้ที่จะทำให้วินิจฉัยได้ว่าใครประมาทหรือประมาทร่วม

พยานทั้งสองบอกว่า ขับรถมาด้วยความเร็วราว 60 – 70 กม./ชม. ตามรถมอเตอร์ไซค์ และนายดาบเป็นผู้เปลี่ยนเลน จากเลนที่ 1 ด้านติดฟุตปาธ ไปยังเลนที่ 3 ด้านติดเกาะกลางถนน ที่รถเฟอรารี่ขับมาอย่างกระชั้นชิด

อัยการ ท่านเชื่อพยานผู้เชี่ยวชาญใหม่ และประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุใหม่ เห็นว่า คนขับรถเฟอรารี่ ไม่เป็นผู้ขับรถโดยประมาท เพราะขับมาด้วยความเร็วตามกฎหมายเป๊ะ แต่กลับถูกปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด จึงชนไปโดยเหตุสุดวิสัย หาใช่ประมาทไม่ ผู้ประมาท คือนายดาบเคราะห์ร้ายผู้วายชนม์ ต่างหาก ส่วนข้อหาขับรถขณะดื่มสุรานั้น สั่งไม่ฟ้องไปนานแล้ว จึงไม่อยู่ในประเด็นแห่งคดีนี้

จึงพลิกกลับคำสั่งฟ้องเดิม สั่งไม่ฟ้อง

ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่โต้แย้ง

ไม่มีรายงานว่า “ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ” ใหม่ทั้ง 2 ราย ที่ขับรถอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยขับรถตามนายดาบ เห็นเหตุการณ์กับตาทั้งหมด ไฉนเพิ่งมาให้การเอาในช่วงนี้

เมื่อ 8 ปีก่อนขณะเกิดเหตุการณ์โด่งดัง ไปอยู่เสียที่ไหน และประเด็นนี้ อัยการ ท่านสงสัยหรือไม่ และมีเหตุผลใดมีน้ำหนักเพียงพอมาหักล้างข้อสงสัยนั้น

ขอให้ท่าน นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยด่วน เป็นเบื้องต้น ท่านเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร อย่างน้อยที่สุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็อยู่ในราชการฝ่ายบริหาร ภายใต้การกำกับดูแลของท่านโดยตรง และท่านเองก็ได้รับปากอย่างองอาจกลางสภา ว่าจะเร่งดำเนินการปฏิรูปตำรวจ

บัดนี้เวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว กรุณาบอกกล่าวต่อประชาชน ว่าท่าน นายกรัฐมนตรี จะทำอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับ ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กับ ร่างพ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา ที่อยู่ในมือของท่าน จะเอายังไงกันดีครับ

ผู้คนทั้งสังคมอับอาย อึดอัดคับข้อง อารมณ์คุกรุ่น อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

อยากได้มธุรสชโลมใจ ลดความอึดอัด คับข้อง คุกรุ่น จากปากและการกระทำของท่านนายกรัฐมนตรีโดยพลันครับ

บริหารราชการแผ่นดิน โดยประมาทความรู้สึกของประชาชน ไม่ได้เด็ดขาด

คำนูณ สิทธิสมาน

สมาชิกวุฒิสภา

26 กรกฎาคม 2563

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo